บึมโรงแรมส.ว. ดับ 1-เจ็บ 13 คาร์บอมบ์ถล่มปัตตานี

กรรมตามสนองโจรป่วนใต้

ขับเก๋งบรรทุกระเบิดเตรียมทำคาร์บอมบ์ถล่มงานทำบุญของจังหวัด แต่ระเบิดทำงานก่อน ฉีกร่างทั้งคนทั้งรถกระจุยไม่มีชิ้นดี โดยเหตุการณ์บึมระทึกกลางเมืองรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา
14.55 น. วันที่ 15 มี.ค. ขณะที่รถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน รุ่นแลนเซอร์ หมายเลขทะเบียน กข 2065 ปัตตานี กำลังแล่นผ่านถนนสุขยางค์ หลังศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ปรากฏว่าจู่ๆ รถคันดังกล่าวเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ได้ยินไปทั่วเมือง ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของผู้ที่เห็นเหตุการณ์

 
แรงระเบิดทำให้ตัวถังของรถถูกฉีกแยกออกจากกันกระเด็นไปคนละทิศละทาง

เหลือแต่ตัวเครื่องกับล้อหน้า เศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณถนน กลุ่มควันดำทะมึนลอยโขมง นอกจากนี้ ร่างของคนขับยังกระเด็นห่างไปจากจุดเกิดเหตุกว่า
50 เมตร สภาพศพร่างเละ เหลือแต่ส่วนลำตัว ทั้งแขน ขา ขาด อวัยวะภายในกระเด็นตกไปอยู่อีกฟากของถนนชวนสยดสยอง หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผกก. สภ.เมืองยะลา ที่นำกำลังรักษาความปลอดภัยในงานทำบุญถวายสังฆทาน บริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ห่างจากที่เกิดเหตุราว 100 เมตร ได้ยินเสียงระเบิด รีบนำกำลังมาที่เกิดเหตุและสั่งปิดถนนสุขยางค์ทันที ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก. พ.ต.ท.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผกก.(ป.) นำกำลังมาสมทบ พร้อมประสาน ร.ต.ท.ไพโรจน์ เมืองสุวรรณ หน.ชุด ศรชัยหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ภ.จ.ยะลา มาตรวจสอบ เนื่องจากเกรงว่าจะมีระเบิดเป็นกับดักซุกซ่อนไว้ 

จากการตรวจสอบในซากรถ ปรากฏว่าพบถังดับเพลิงซุกอยู่ในซากของรถเก๋ง
1 ใบ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 กก.
 
เจ้าหน้ารีบเก็บกู้ไว้ได้ ตรวจสอบพบว่าในถังดับเพลิงมีส่วนผสมของดินระเบิด เหล็กเส้นและปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท เป็นระเบิดที่พร้อมทำงานเต็มพิกัดแต่โชคดีที่ยังไม่ทำงาน นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบใบขับขี่ที่ถูกไฟไหม้บางส่วนระบุชื่อ นายสาลาฮูดิน ปูลา อายุ
20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 6 บ้านบาตูปูเต๊ะ ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ส่วนรถตรวจสอบจากทะเบียนทราบเป็นของนางหัทยา แตมามุ อยู่บ้านเลขที่ 294/1 ถนนปัตตานีภิรมย์ ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี เป็นปลัดอำเภอเมืองปัตตานี ฝ่ายทะเบียนอาวุธปืน 
 

หลังทราบดังนั้น พล.ต.ต.สายัณห์ได้สั่งให้ สภ.ธารโต ตรวจสอบรายชื่อเจ้าของใบขับขี่


พบว่า นายสาลาฮูดิน เป็นน้องของนายอับดุลเลาะ ปูลา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่าและพยายามฆ่า ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ตายคือนายสาลาฮูดินได้ขนระเบิดถังดับเพลิง
2 ลูก เตรียมนำไปก่อวินาศกรรมลักษณะ คาร์บอมบ์ในงานทำบุญถวายสังฆทานพระสงฆ์ 266 วัด อุทิศให้เหยื่อไฟใต้และมอบทุนช่วยเหลือครูใต้ ที่จังหวัดยะลาร่วมกับมูลนิธิธรรมกาย จัดขึ้นที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร หรือเป้าหมายอีกแห่งอาจเป็นงานซ้อมใหญ่รับพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาที่อยู่ใกล้กัน ระหว่างที่คนร้ายกำลังขับรถวนหาที่จอด คาร์บอมบ์ปรากฏว่าระเบิดกลับทำงานเสียก่อน 

ส่วนเจ้าของรถเก๋งคือนางหัทยา ตรวจสอบแล้วทราบว่า อยู่ระหว่างเดินทางไปสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอที่กรุงเทพฯ


และทราบว่านางหัทยานำรถคันดังกล่าวขายโอนลอยให้เต็นท์รถตะลุโบะ เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ของนายยูโซ๊ะ ลาเต๊ะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ภายหลังทางเต็นท์ ได้ขายโอนลอยไปอีกทอดและยังไม่ทราบว่าคนที่ซื้อต่อเป็นใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนหาที่มาของรถอีกครั้ง
 

ต่อมาเวลา
20.30 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวภายในห้องน้ำชั้นล่างของโรงแรมซีเอส

ถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ อ.เมืองปัตตานี จากนั้นราวอีก
2 นาที เกิดระเบิดถล่มอีกลูกภายในรถเก๋งมิตซูบิชิ ทะเบียน ภน 5023 กรุงเทพมหานคร ที่จอดไว้บริเวณลานจอดหน้าโรงแรม แรงระเบิดทำให้รถเก๋งฉีกขาดเป็น 2 ท่อน นอกจากนี้ ยังทำให้รถยนต์ที่จอดบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน แถมกระจกของโรงแรมทั้ง 9 ชั้น แตกร่วงระนาว
 

ห่างจากจุดเกิดเหตุราว
15 เมตร เป็นป้อมยาม รปภ.ถูกแรงระเบิดพังเสียหาย

ในป้อมพบศพนายนะ
สะกรี สาและ อายุ 28 ปี รปภ.ของโรงแรม ถูกระเบิดเข้าตามลำตัวเสียชีวิตคาที่ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นสื่อมวลชนจากส่วนกลางและในพื้นที่มานั่งกินอาหาร หลังเสร็จจากงานสัมมนา แต่ละคนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด รีบลำเลียงส่ง รพ.ปัตตานี ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายนำระเบิดมาซุกไว้ในรถเก๋งแล้วกดชนวนด้วยระบบรีโมตคอนโทรล 

ต่อมา พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รอง ผบช.ภ.
9 พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จ.ปัตตานี

นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร ผบ.ฉก.
2 ปัตตานี นำกำลังและหน่วยเก็บกู้ระเบิดมาตรวจสอบ พบเศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนในซากรถเก๋งพบชิ้นส่วนของถังดับเพลิง คาดเป็นระเบิดถังดับเพลิงที่คนร้ายนำมาซุกไว้ในรถเก๋ง โดยก่อนจุดชนวนในรถเก๋ง คนร้ายได้นำระเบิดไปวางไว้ในห้องน้ำชั้นล่างและกดชนวนระเบิดก่อน เพื่อให้คนในโรงแรมตกใจวิ่งออกมาแล้วกดระเบิด คาร์บอมบ์ซ้ำอีกลูก
 นาย

ชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผอ.บริหารสถาบันอิศรา เปิดเผยว่า

วันเดียวกันนี้ สถาบันได้จัดสัมมนาผู้สื่อข่าวใน
3 จังหวัดภาคใต้ขึ้นที่โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ห่างจากโรงแรมจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. หลังเสร็จสิ้นการประชุม ทราบว่ามีผู้สื่อข่าวหลายคนไปนั่งรับประทานอาหารเพื่อพบปะพูดคุยกันที่โรงแรมซีเอส แรงระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้นายมูหะหมัดปาเรซ โลหะสันห์ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ บาดเจ็บ นำส่ง รพ.ปัตตานี และอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้จะเกิดขึ้น ขณะนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนรวมทั้งสื่อมวลชนในพื้นที่ เพราะไม่มีใครให้ความมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก  

ส่วนรายชื่อผู้บาดเจ็บประกอบด้วย


1.นายอับดุลเลาะ สาและ 2.นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล เจ้าของโรงแรมซีเอส และเป็น ส.ว.สรรหา 3.นายมูหะหมัดปาเรซ โลหะสันห์ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ 4.ส.ต.ท.อาหะหมัด มะเซ็ง 5.นายอำนาจ สาและ 6.นางจิรา ประทาย 7.นายวีระยุทธ แวสุหลง 8.นางจิตรละออ เด่นอุดม 9.ด.ช.สาละ เทียนปรีชา 10.ด.ญ.รส เทียนปรีชา 11.นายชาย ขาวทอง ส.จ.เขตอำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 12.นางเปรมมนัส เทียนปรีชา และ 13.นายอับดุลรอสะ ซาและ สำหรับโรงแรมซีเอส แห่งนี้เคยถูกลอบวางระเบิดมาหนหนึ่งเมื่อปลายปี 2548 เป็นระเบิดถังดับเพลิง โชคดีมีคนเห็นก่อนและเจ้าหน้าที่กู้ไว้ได้ทัน
 

ต่อมานายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล เจ้าของโรงแรมซีเอส และ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า

 
ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนความเสียหายโรงแรมมีเพียงกระจกและฝ้าบนโรงแรม แต่สูญเสีย รปภ.
1 ราย ส่วนสาเหตุคงต้องรอให้เจ้าหน้าที่สรุป สิ่งสำคัญตอนนี้ ต้องดูแลคนเจ็บก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ หรือว่าเป็นเหตุขัดแย้งทางการเมือง นายอนุศาสตร์กล่าวว่า ต้องรอเจ้าหน้าที่สรุปก่อน อย่าเพิ่งด่วนสรุป เหตุการณ์เพิ่งเกิด ไม่สามารถจะสรุปสาเหตุได้ ผมว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันไม่ดีกับบ้านเมือง ทุกคนต่างพยายามทำอย่างดีที่สุด ทุกคนก็รักจังหวัดปัตตานี จังหวัดบ้านเกิดของเรา เราก็ยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม นายอนุศาสตร์กล่าว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์