เมื่อ 12 มี.ค. บีบีซีรายงานว่า ชาวฮ่องกงเริ่มหวาดผวาว่า เชื้อไวรัสซาร์ส หรือเชื้อไข้หวัดนกมรณะอาจหวนกลับมาอีก
หลังทางการสั่งปิดโรง เรียนประถมศึกษาโฮยัตถัง จากกรณีที่มีนักเรียน 30 กว่าคนป่วยเป็นไข้พร้อมๆ กันและนักเรียนวัย 7 ขวบเสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย ทั้งนี้ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เด็กชายหลอ โฮหมิง อายุ 7 ขวบ นักเรียนโรงเรียนโฮยัตถัง ป่วยหนัก มีอาการไข้ขึ้นสูง แพทย์พบว่าสมองบวมและอักเสบ จากนั้นวันอังคารที่ 11 มี.ค. ก็เสียชีวิตในโรงพยาบาล ส่วนเพื่อนร่วมโรงเรียนอีก 30 กว่าคนป่วยเป็นไข้เช่นกัน ในจำนวนนี้ 5 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
หลังเกิดเหตุ หน่วยงานสาธารณสุขฮ่องกงส่งหน่วยแพทย์และนักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์
เพื่อดูว่าอาการป่วยที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากไวรัสไข้หวัดนก หรือ ไวรัสซาร์ส ซึ่งเคยแพร่ระบาดครั้งใหญ่เมื่อปีพ.ศ.2546 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนหรือไม่ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.พ.และต้นเดือนม.ค. เพิ่งมีเด็กฮ่องกง 2 คน อายุ 2 ขวบและ 3 ขวบเสียชีวิตเพราะติดเชื้อไข้หวัดนกมาแล้ว
ด้านหนังสือพิมพ์หมิงเป้ารายงานว่า นายจง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อโรคที่ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ กล่าวว่า
ช่วงเดือนมีนาคมนี้ ประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่เชื้อไข้หวัดระบาดสูงสุด ขณะที่พบสัญญาณว่า เชื้อไข้หวัดนกมรณะ เอช 5 เอ็น 1 อาจกลายพันธุ์ ยิ่งหากมีการติดต่อในมนุษย์มากๆ ดังนั้นหากพบว่า ใครมีไข้สูงหรือปอดบวม ต้องรีบส่งตัวเข้ารักษาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจรักษาไม่ทัน
เกรกอรี่ ฮาร์เทิล โฆษกองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า
สถานการณ์เชื้อไข้หวัดนกระบาดอาจไม่ร้ายแรงอย่างที่นายจงวิตก เพราะการกลายพันธุ์จะเกิดในไวรัสไข้หวัดใหญ่ ส่วนไข้หวัดนกจะพัฒนาเป็นเชื้อที่มีฤทธิ์รุนแรงยิ่งขึ้น ไม่ใช่กลายพันธุ์ โดยในปีนี้ มีชาวจีนเสียชีวิตเพราะไข้หวัดนกแล้ว 3 ราย แต่ไม่ได้ติดต่อระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์
วันเดียวกัน ทางการเวียดนามแจ้งว่า มีชะมด 4 ตัวในอุทยานแห่งชาติที่จังหวัดนินห์บินห์ ทางภาคเหนือ ตายเพราะเชื้อไข้หวัดนก เอช 5 เอ็น 1 และเกรงว่าเชื้อระบาดไปยังสัตว์ชนิดอื่นๆ