คนร้ายลอบขโมยถอดนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงโผล่อีกหลายพื้นที่ทั้งภาคกลางและภาคอีสาน
โดยรายแรก เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.ยศไกร วงษ์ดาวไทย ผกก.สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเสาไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริเวณกลางทุ่งนา หมู่ 2 ต.คลองจิก มีลักษณะเอนเอียงไปมาตามกระแสลมพัด เกรงว่าจะล้มครืนลงมาขอให้ไปตรวจสอบด้วย จึงสั่งการให้ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบ พบเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดความสูงจากพื้น 40 เมตร รับแรงดันกระแสไฟฟ้า 115,000โวลต์ จำนวน 3 ต้น เอนเอียงไปมาเป็นที่น่าหวาดเสียว
โดยต้นแรกพบว่าเหล็กฉากขนาดความยาวตั้งแต่ 1-4 เมตร ที่ยึดโยงเข้ากับโครงเหล็กเสาไฟฟ้าถูกคนร้ายลักลอบถอดนอตไป 400 ตัว
เหล็กฉาก 200 อัน ต้นที่ 2 คน ร้ายขโมยถอดเอาเหล็กฉาก 20 อัน นอตยึด 40 ตัว ส่วนเสาต้นที่ 3 คนร้ายขโมยถอดเอาเหล็กฉาก 32 อัน นอต 64 ตัว รวมเหล็กฉากยึดโยงโครงเหล็กที่ถูกขโมยไปจำนวน 252 อัน นอต 504 ตัว ขณะเดียวกันยังพบว่า บริเวณเสาไฟทั้ง 3 ต้น มีร่องนอตถูกถอดคาไว้หลายแห่ง บริเวณโคนเสาพบนอตถูกถอดกองรวมกันอยู่ 20 ตัว ประแจเบอร์ 19 อีก 1 ตัว และรองเท้าแตะคาดว่าเป็นของคนร้ายทำหล่นไว้ 1 คู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ลักเหล็กเสาไฟ ลามทั่วประเทศ
ต่อมาวันเดียวกันนายไทย บุญบรรจง หัวหน้าแผนกสายส่ง 1 บางปะอิน 2 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
ก่อนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ กฟผ.เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ. บางปะอิน โดยนายไทย กล่าวว่า แนวเสาไฟที่ถูกคนร้ายขโมยถอดนอตเป็นสายส่งกระแสไฟไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยบางปะอินเพื่อจ่ายต่อไปยังนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งชุมชนต่างๆในพื้นที่รับผิดชอบ ถือว่าโชคดี ที่ชาวบ้านพบเห็นเสียก่อน หากเสาไฟล้มลงมาจะสร้างความเสียหายให้กับกระบวนการผลิตของ 2 นิคมอุตสาหกรรมและชุมชนต่างๆ เป็นอย่างมาก
ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าประมาณต้นละ 100,000 บาท
สำหรับตัวเลขความเสียหายที่ทางการไฟฟ้าฯเก็บรวบรวมไว้ในรอบ 3 ปี คือในปี 2549 คนร้ายก่อเหตุ 8 ครั้ง ขโมยเหล็กฉากยึดโครงเหล็ก 1,400 อัน ปี 2550 ก่อเหตุ 4 ครั้ง ขโมย เหล็กฉาก 814 อัน ส่วนปี 2551 จนถึงปัจจุบันก่อเหตุ 4 ครั้ง ขโมยเหล็กฉาก 333 อัน รวมเกิดเหตุ 16 ครั้ง เหล็กที่ถูกขโมยไป 2,547 อัน ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ อ.วังน้อย อ.บางไทร อ.เสนา อ.อุทัย และล่าสุดที่ อ.บางปะอิน เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมเสาไฟแล้วคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันเดียวกันนี้
อีกรายบ่ายวันเดียวกัน นายสมชัย ชัยพร ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกบำรุงรักษาสายส่ง 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ราชบุรี
รับแจ้งมีคนร้ายขโมยนอตและเหล็กฉากยึดเสาไฟฟ้าแรงสูงบริเวณหมู่ 5 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี รุดไปตรวจสอบพบเสาไฟถูกคนร้ายขโมยถอดนอตได้รับความเสียหาย 10 ต้น เหล็กฉากและนอตที่ถูกขโมยแต่ละต้นไม่ต่ำกว่า 40 ตัว จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน โดยนายสมชัยกล่าวว่าช่วงปีที่ผ่านมาคนร้ายขโมยเหล็กจากเสาไฟไปแล้วกว่า 20 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ในขณะที่ภาคอีสานคนร้ายก่อเหตุขโมยนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงหลายพื้นที่เช่นกัน โดยที่ จ.อุบลราชธานี คนร้ายลักลอบถอดนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ติดตั้งข้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงอุบลราชธานี 1 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ขโมยนอต 64 ตัว เหล็กฉากยึดโครงเหล็ก 33 อัน ค่าเสียหาย 17,900 บาท เช่นเดียวกับ จ.บุรีรัมย์ คนร้ายลอบถอดนอตเสาไฟฟ้าแรงสูงบริเวณริมถนนสายบ้านระหาน-บ้านร่อนทอง อ.สตึก 7 ต้น ขโมย เหล็กฉากยึดโครงเหล็ก 175 อัน นอตอีกจำนวนหนึ่ง ค่าความเสียหายราว 30,000 บาท เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้วเช่นกัน
ทางด้านนายระพิน จารุดุล อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า
กรมทางหลวงเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ ทรัพย์สินที่ถูกขโมยมากที่สุดคือสายไฟที่ฝังอยู่ใต้ดินตามเกาะกลางถนน ล่าสุดเกิดที่ถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจพบขณะคนร้ายขโมยสายไฟโดยการขุดลงไปในดินเพื่อดึงสายไฟที่ฝังอยู่ จากนั้นจะนำไปหลอมเอาทองแดงมาขาย ราคาเฉลี่ย กก.ละ 200-300 บาท ขณะที่ความเสียหายเพียงจุดเดียวกว่า 3,000,000 บาท นอกจากนี้ยังมีแผ่นเหล็กกันรถตกถนน ป้ายบอกทาง และอื่นๆที่อยู่ตามรายทางถูกขโมยไปขายเป็นเศษเหล็กอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล การป้องกันเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อการตรวจตรา ดังนั้น ของให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้งสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 และหมายเลข 1356 ตลอด 24 ชม.
ด้านคดีแก๊งโจ๋ขโมยนอตในท้องที่ สน.หนองจอก พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.3 เปิดเผยว่า ห
ลังจากตำรวจจับกุมตัวนายสมาม ทองแม้น เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า แต่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีพยานหลักฐานสามารถออกหมายจับได้แล้ว คิดว่า ทางด้านคดีคงจบแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ทุก สน.ในเขต บก.น.3 ออกตรวจสอบตามร้านรับซื้อของเก่าทั้งหมดว่ารับซื้อของโจรหรือไม่ รวมทั้งตรวจดูใบอนุญาตให้เรียบร้อย ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือร้านต่างๆเหล่านี้หากมีใครเอาของในลักษณะไม่ถูกต้องมาขายให้แจ้งตำรวจ