ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสังคมไทยเริ่มรู้จักพฤติกรรม "ขว้างหิน" เข้าใส่รถ นับตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 26 ตุลาคม 2547 เมื่อกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ แล้วขว้างก้อนหินเข้าใส่รถตู้ที่มีตลกคณะ "เหลือเฟือ ม๊กจ๊ก"โดยสารมา จนเป็นเหตุให้ดาวตลกแคระ นายสมชาย จันเจือ อายุ 37 ปีหรือ "โจ้ นฤเบศ มกจ๊ก"เสียชีวิต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บนถนนสายเอเชีย
ก่อนถึงตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา 3 กิโลเมตรก้อนอิฐที่ถูกขว้างใส่กระจกหน้ารถตู้ มีขนาดกว้าง 3 นิ้ว ยาว 8 นิ้วหนา 2 นิ้วและไปตกอยู่ภายในรถช่วงที่นั่งหลัง ซึ่งเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนั้น มีอาการเลือดออกในสมอง และเสียชีวิตในที่สุด
ถัดจากนั้นเพียงไม่กี่วันเจ้าหน้าที่ตามจับกุม นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาปี 1 วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทำไปเพราะรถตู้เปิดคู่กรณีไฟสูงใส่หน้า "ที่ทำไปเพราะไม่คิดว่าจะมีคนตาย" นายเอ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาถูกนำตัวส่งฟ้องศาลคดีเด็กและเยาวชน ในข้อหาทำลายทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
ความรุนแรงในลักษณะนี้ยังคงเกิดขึ้นต่อมาที่ จ.นครศรีธรรมราช
ในเวลา 01.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2549 นายสุรพล เขียวลำไย อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาเดิม จ.สมุทรสงคราม ถูกก้อนหินเข้าที่ใบหน้า ขณะนอนหลับอยู่ที่เบาะข้างคนขับรถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งรับจ้างบรรทุกแผ่นกระเบื้องจากจ.สระบุรี นำมาส่งที่ จ.สงขลา ในขณะที่รถผ่านเข้าสู่ ต.นาโพธิ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา พร้อมกับใช้ก้อนหินปาใส่จนกระจกแตก และก้อนหินกระเด็นโดนใบหน้าบริเวณแก้มขวานายสุรพลที่กำลังนั่งหลับอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ทำให้เสียชีวิตก่อนจะถึงโรงพยาบาล ซึ่งคำอธิบายของตำรวจ สภ.ทุ่งสง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น นั่นก็คือ ฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการสร้างวุ่นวาย เป็นการก่อเหตุด้วยความคึกคะนอง