เฒ่า86มีดฟันเมียดับอ้างป่วยไม่ดูแล-เอาเงินเก็บปล่อยกู้

คมชัดลึก

เฒ่าวัย 86 ระเบิดอารมณ์คว้ามีดปาดตาล ฟันเมียเศรษฐินีปล่อยเงินกู้ 30 แผลเหวอะหวะ มือขาด หูขาด เหตุแค่ทะเลาะเรื่องเงิน อ้างเมียไม่เหลียวแลทั้งที่เอาเงินเก็บไปปล่อยกู้

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ร.ต.ท.วลัยศักดิ์ จิระ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีทางโทรศัพท์ว่า ที่บ้านเลขที่ 411/1 ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีเหตุทะเลาะกันรุนแรงเสียงดังมากขอให้ไปตรวจสอบ

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง เปิดไฟสว่าง บริเวณหน้าบ้านมีรั้วรอบ มีญาติมารออยู่หน้าบ้านหลายคน จึงใช้กุญแจจากญาติไขเข้าไป เมื่อขึ้นไปบนบ้านพบศพนางเสวย นาคพินิจ อายุ 80 ปี เจ้าของบ้าน นอนตะแคงเสียชีวิตอยู่หน้าห้องน้ำ ในสภาพนุ่งผ้าถุงลาย ใส่เสื้อแขนสั้นลาย จมกองเลือด ตามตัวมีบาดแผลถูกฟัน รวม 30 แผลฉกรรจ์

แผลสำคัญ ได้แก่ บริเวณกกหูถูกฟันลึกถึงกะโหลก 2 แผล ศีรษะ 5 แผล ข้อมือซ้ายโดนฟันจนขาดร่องแร่ง ใบหูซ้ายขาด กลางหลัง และแขนขวา รวม 30 แผล เป็นแผลฉกรรจ์

ส่วนมือมีดหลบหนีไปพร้อมมีดปาดตาลที่ใช้ก่อเหตุ ต่อมาถูกควบคุมตัวได้ในสวนหลังบ้านพร้อมมีดของกลาง ทราบชื่อคือ นายแสน ทิพยรูป อายุ 86 ปี เป็นสามีของผู้ตาย

จากการสอบสวน นายแสน รับสารภาพว่า ตนกับผู้ตายเคยมีสามีและภรรยามาแล้วทั้งคู่ หลังจากสามีของนางเสวยเสียชีวิต ตนก็เลิกกับภรรยาแล้วมาอยู่กินกับนางเสวยได้ 29 ปี เพียงสองคน ไม่มีบุตรด้วยกัน ตนยึดอาชีพค้าขายและทำสวนผลไม้ ส่วนภรรยาเป็นคนมีฐานะอยู่แล้ว ปล่อยเงินกู้เพื่อนบ้านและคนที่รู้จักกัน

นายแสน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนางเสวยนำเงินที่ตนเก็บไว้ไป เป็นเงิน 144,500 บาท อ้างว่าจะนำไปปล่อยให้กู้ หลังจากตนผ่าตัดโรคต่อมลูกหมากโตก็มาพักฟื้นที่บ้าน ต้องใส่สายยางและถุงปัสสาวะตลอดเวลา ผู้ตาย ไม่เคยมาดูแล แถมยังมีปากเสียงกันบ่อยๆ จึงขอเงินคืน จนเกิดมีปากเสียงกันอีกกลางดึก แล้วตนนำถุงปัสสาวะไปเททิ้งในห้องน้ำ ระหว่างนั้นผู้ตายได้ถือมีดปาดตาลมาดักหน้าห้องน้ำ พอตนออกมาก็ถูกฟันทันที หลังจากตนแย่งมีดเล่มนั้นมาได้ ตนจึงกระหน่ำฟาดฟันผู้ตายด้วยความโมโหอย่างไม่ยั้งมือ ท่ามกลางเสียงร้องโอดโอยขอความช่วยเหลือของผู้ตายดังลั่น ก่อนจะล้มลงจมกองเลือด ตนจึงหลบหนีด้วยความตกใจก่อนถูกจับกุมได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายแสนไว้ แจ้งข้อหาฆ่าคนตายด้วยอาวุธมีด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองสิงห์บุรี สอบสวนดำเนินคดีต่อไป