รวบแล้ว รับซื้อนอตเสาไฟ โทษหนัก

กรณีแก๊งคนร้ายลอบขโมยถอดนอตยึดฐานเสาไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

บริเวณกลางทุ่งนา หมู่ 3 หมู่บ้านสวนเกษตรปรีชา ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. เป็นเหตุเสาไฟฟ้าโครงเหล็ก ความสูงขนาดตึก 20 ชั้น โค่นล้มพังเสียหาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองจอก จับกุมแก๊งวัยรุ่นหัวขโมยได้ทั้งสิ้น 5 คน ทั้งหมดรับสารภาพว่านำนอตไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวเจ้าของร้านมาดำเนินดี ข้อหารับซื้อของโจร ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มี.ค. พ.ต.อ.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผกก.สน.หนองจอก

พ.ต.ท.ตฤณจรบุญโทแสง รอง ผกก.สส. เดินทางไปที่ศาลจังหวัดมีนบุรี เพื่อขออนุมัติหมายจับกุมนายสมาน ทองแม้น อายุ 50 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าอู่ทองรีไซเคิล เลขที่ 17/2 หมู่ 9 ถนนมิตรไมตรี แขวงและเขตหนองจอก กทม. ในข้อหารับซื้อโจรเพื่อค้ากำไร อันทรัพย์สินที่ได้มาจากการลักทรัพย์เพื่อประโยชน์สาธารณะ ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติหมายจับเลขที่ 509/2551 ลงวันที่ 11 มี.ค.51 จากนั้น ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมตัวนายสมาน ทองแม้น เจ้าของร้านดังกล่าว นำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สน.หนองจอก

ต่อมา พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.3 เดินทางไปสอบสวนผู้ต้องหา พร้อมกับเปิดเผยว่า
 
คดีนี้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ต้องหาที่ลักทรัพย์แล้วขอหมายจับจากศาล ซึ่งศาลก็อนุมัติ ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ หากต้องการประกันตัวก็สามารถนำเงินสด 1 แสนบาทมายื่นประกันได้ทันที  สำหรับนายสมาน นอกจากคดีนี้แล้ว ยังตกเป็นผู้ต้องหาอีกคดี กรณีรับซื้อของโจร เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.50 โดยคดีอยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นศาล เป็นกรณีรับซื้อสายไฟที่คนร้ายขโมยมาจากชาวบ้าน ทั้งนี้ จะพยายามรวบรวมหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
 

ขณะเดียวกัน ได้ตรวจสอบประสานงานกับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่บก.น.3

พบว่ามีประมาณ 30 กว่าแห่ง เฉพาะท้องที่ สน.หนองจอก มีทั้งหมด 6 แห่ง ตนได้ทำหนังสือขอความร่วมมือเจ้าของร้านในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการโจรกรรมนอตเสาไฟ พร้อมแนบรูปถ่ายนอตและโครงเหล็กฉากเสาไฟเพื่อให้เจ้าของร้านช่วยแจ้งตำรวจ และอย่ารับซื้อสิ่งของดังกล่าวไว้ หากพบว่าร้านรับซื้อของเก่าแห่งใดฝ่าฝืนนอกจากจะถูกจับดำเนินคดีอาญาแล้ว ตนจะทำเรื่องเสนอถอนใบอนุญาตประกอบการรับซื้อของเก่าต่อไปด้วย
  

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้เจ้าของร้านไม่ได้เป็นคนรับซื้อ เจ้าของร้านจะผิดหรือไม่

ผบก.น.3 ตอบว่าเจ้าของร้านจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะมีหน้าที่อบรมลูกน้องให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อควบคุมไม่ได้ก็ต้องมีความผิด ส่วนลูกจ้างที่เป็นคนรับซื้อตอนนี้ทราบชื่อทุกคนแล้ว อยู่ ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อไป
 

ด้านนายสมาน ทองแม้น เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่ตกเป็นผู้ต้องหารับซื้อของโจรกล่าวว่า ตนขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เพราะไม่ได้รับซื้อของดังกล่าว

การที่ผู้ต้องหาเด็กซัดทอดว่าขายนอตให้คนผู้ชายอ้วนดำและผู้หญิงผอมขาวสูง ที่ร้านไม่มีลูกจ้างคนใดมีรูปพรรณตรงตามที่ผู้ต้องหาให้การด้วย นอกจากนี้ ในวันที่ตำรวจเข้าตรวจค้นครั้งแรก ในคืนเกิดเหตุเวลา 22.30 น. ตนก็ให้ความร่วมมือให้ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในร้านอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบของกลาง ตนเปิดร้านมาได้ 1 ปี ลูกค้าหลักเป็นพวกซาเล้ง หาเช้ากินค่ำ เก็บของเก่าในถังขยะมาขาย ตนไม่รับซื้อของจำพวกนี้อยู่แล้ว เพราะไม่สนับสนุนให้คนไปลักของ

สื่อข่าวถามว่า คดีที่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร

นายสมานตอบว่าคดีนั้น ตนมีชื่อเพราะลงลายเซ็นในเอกสารการรับซื้อของเก่า แต่เซ็นไปโดยไม่ได้ดูของ ลูกน้องเอามาให้เซ็นก็เซ็นไป ส่วนการประกันตัว อยู่ที่ตำรวจจะให้คำแนะนำอย่างไร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสมาน ผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พร้อมกับส่งตัวเข้าเรือนจำทันที โดยไม่ขอรับตัวกลับ เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ