เร่งล่าตัว"อีเสก กระเทยแสบ"มือวางยาสารวัตร
"อีเสก กระเทยแสบ"โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2549 15:36 น.
ตำรวจนครบาลเร่งล่าตัว "อีเสก กระเทยแสบ" ล่าสุดดักจับสัญญาณโทรศัพท์ได้ย่านวังน้อย อยุธยา พร้อมประสานไปยังตำรวจชัยภูมิ บ้านเกิดผู้ต้องหาซุ่มสกัดจับด้วยเช่นเดียวกัน
วันนี้ (19 พ.ค.) พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง ผกก.สส.น.8 พ.ต.ท.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผกก.สส.น.8 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมประชุมเพื่อคลี่คลายคดีการจับกุมนายเสกสรรค์ คำวงษ์ อายุ 36 ปี หีรือ"อีเสก กระเทยแสบ" ผู้ต้องหาฆ่า พ.ต.ท.ชรินทร์ บุญนาค สว.สส.สน.ตลาดพลู โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุดในการออกติดตามตัวคนร้ายและออกหาข่าวทั้งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านเกิดผู้ต้องหา รวมทั้งในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑล และจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจได้รับสัญญาณโทรศัพท์ของผู้ต้องหาใช้ติดต่อในเขต อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ ได้กระจายกำลังกันเร่งติดตามตัวแล้ว
มีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้เข้าไปปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่เรือนจำที่จังหวัดสระบุรี จากนั้นได้ทิ้งอาวุธปืนไว้ ทราบว่าอาวุธปืนดังกล่าวได้ส่งผ่านมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ขณะนี้ผู้ต้องหาได้ขับรถผ่านเข้าอ.วังน้อย คาดว่าช่วงเมื่อคืนน่าจะอยู่แถวๆชานเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังไปประกบแต่ไม่สามารถติดตามตัวได้
พล.ต.ต.กฤษฎา เปิดเผยว่า คดีมีคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าส่วนใดที่คืบหน้า และยังไม่ทราบว่า ตัวผู้ต้องหาอยู่ที่ใด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามกระจายกำลังออกติดตามอย่างกระชันชิด
พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงเรื่องเดียวกันว่า ขณะนี้ทางชุดสืบสวนของ บก.น.8 สืบทราบว่าอาวุธปืนของ พ.ต.ท.ชนินทร์ นั้น นายเสกสรร คำวงศ์ คนร้ายที่ก่อเหตุได้นำไปฝากไว้กับญาติคนหนึ่ง ก่อนที่ญาติคนดังกล่าวจะนำไปฝากไว้กับผู้คุมเรือนจำจังหวัดสระบุรีที่รู้จักกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคืนมาได้แล้ว ส่วนรถของกลางและทรัพย์สินอื่นนั้น ๆ จะเร่งติดตามอีกครั้ง
ส่วนตัวคนร้ายนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ ได้ตามล่า กดดันอย่างหนักเพื่อให้คนร้ายรายนี้ เข้ามอบตัว โดยขณะนี้ทราบแล้วว่าคนร้ายยังคงกบดานอยู่แถบบริเวณจังหวัดสระบุรี ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามพฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้ ไม่น่าจะทำเป็นแก๊ง แต่ที่ลงมือก่อเหตุนั้น เพียงแค่ ต้องการทรัพย์สินเท่านั้น
ขณะเดียวกันที่อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ อันเป็นบ้านเกิดของผู้ต้องหานั้น พ.ต.ท.บัญชา ไพรินทร์ รองผกก.สส.สภ.อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า นายเสกสรรค์มีพื้นเพเป็นชาวอ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ หลังเกิดเรื่องได้รับการประสานจากตำรวจนครบาล ในการสกัดจับนายเสกสรรค์ ซึ่งอาจจะย้อนกลับมายังบ้านเกิดเช่นเดียวกัน โดยสั่งให้สายสืบส่งกำลังไปซุ่มสกัดจับที่บ้านเกิดรวมทั้งพื้นที่ต่างๆ ที่คาดว่า นายเสกสรรค์อาจจะหลบหนีการกระทำความผิดกลับมา
พ.ต.ท.บัญชากล่าวว่า นายเสกสรรค์ เคยมีประวัติต้องคดี ปลอมแปลงเอกสารและแจ้งความเท็จที่สภ.อ.บ้านเขว้า โดยคดีดังกล่าว นายเสกสรรค์มาแจ้งความเท็จเพื่อต้องการทำบัตรประชาชน เพราะอยากเป็นผู้หญิง ซึ่งคดีสิ้นสุดไปแล้ว ส่วนประวัติด้านต้มตุ๋นหลอกลวง ไม่เคยมีปรากฏ
"ล่าสุด เท่าที่ทราบ นายเสกสรรค์กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด เมื่อครั้งเทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านมา และยังไม่เคยย้อนกลับไปที่บ้านอีก พอทราบข่าวที่เกิดขึ้น และทางตำรวจนครบาลประสานมา ก็ส่งกำลังลงไปซุ่มสกัดจับแล้ว หากนายเสกสรรค์ย้อนกลับมาคงไม่รอดแน่"พ.ต.ท.บัญชากล่าว