ผู้ว่าฯ- ผบก.เมืองเพชรบุรี ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท ล่ามือปาหินใส่รถบรรทุก ทำเด็กตาย ผช.ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามคดี มั่นใจรวบตัวได้เร็วๆ นี้ เตือนผู้ปกครองดูแลลูกหลานอย่าคึกคะนอง ชี้มีโทษถึงประหารชีวิต
ความคืบหน้ากรณีวัยรุ่นเมืองเพชรบุรีปาหินใส่รถสิบล้อบรรทุกอ้อยของนายสนิท สายเพชร อายุ 45 ปี
ทำให้ ด.ช.อนุพงษ์ สายเพชร หรือน้องมอส อายุ 13 ปี บุตรชาย ถูกหินเข้าที่ศีรษะเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 147-148 หมู่ 3 ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ต.ต้นมะพร้าว อ.เมือง จ.เพชรบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 มีนาคม
นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วยนางอมรรัตน์ ลิ่มไทย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี เดินทางไปที่วัดท่าขาม ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เพื่อเคารพศพน้องมอส โดยผู้ว่าฯ เพชรบุรีได้มอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพ 2 หมื่นบาท และเหล่ากาชาดมอบให้อีก 5,000 บาท นอกจากนี้เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี ยังร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพในคืนวันที่ 10 มีนาคมด้วย
ต่อมาเวลา 15.00 น.
นายสยุมพร ประชุมร่วมกับนายก อบต. กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ที่ห้องประชุมปฏิบัติการศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี โดยขอความร่วมมือหน่วยงานปกครองและท้องถิ่นให้ตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่เพื่อประสานกับตำรวจในการตามล่าคนร้าย เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีสะเทือนใจและทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเสียหาย นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ยังได้ตั้งเงินรางวัลจำนวน 5 หมื่นบาทให้แก่ผู้ที่ให้เบาะแสจนทำให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้ตั้งรางวัลนำจับอีกจำนวน 5 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 1 แสนบาท
ก่อนหน้านี้ เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามเร่งรัดคดี พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า
คนร้ายที่ปาหินคาดว่าจะเป็นคนในพื้นที่ ดูได้จากหินที่นำมาปาเป็นหินที่อยู่ในพื้นที่ และคงจะทำด้วยความคึกคะนอง ขอเตือนไปยังผู้ปกครองให้คอยเตือนบุตรหลาน อย่าได้ประพฤติเช่นนี้ เพราะความผิดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดแค่คึกคะนอง แต่เป็นการเจตนาฆ่าคนตาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงติดคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ส่วนการติดตามตัวคนร้ายมั่นใจว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ แน่นอน
พ.ต.อ.นนทวัชร์ ปานแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี กล่าวว่า
ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาข่าว และมีการสอบพยานแวดล้อมไปแล้วหลายปาก เบื้องต้นกำลังหาเบาะแสว่าในรัศมีโดยรอบจากที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมของวัยรุ่นที่ดื่มสุราบ้างหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ในทำนองนี้ส่วนใหญ่มีที่มาจากการดื่มสุราจนขาดสติ ส่วนเป้าหมายที่ตำรวจให้น้ำหนักก็คือกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมในการขับขี่รถจักรยานยนต์แข่งขันกัน