ทางการจีนรณรงค์ขนานหนักว่า แมวจะแพร่เชื้อโรคร้ายที่รวมถึงโรคซาร์ส หรือโรคระบบทางเดินหายใจขัดข้องที่เคยแพร่ระบาดหนักเมื่อปี 2546 และเรียกร้องให้ช่วยกันกำจัดแมว จนชาวบ้านตื่นกลัวนำแมวออกมาปล่อยทิ้งหลายพันตัว กระทั่งมีข่าวว่าครูโรงเรียนอนุบาลในปักกิ่ง ทุบตีแมวจรจัด 6 ตัวจนตายทั้งที่ 2 ตัวกำลังท้อง เพราะกลัวว่าแมวจะแพร่เชื้อให้เด็ก ขณะที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ประณามว่า จีนทำไปเพื่อเตรียมเคลียร์เมืองให้พร้อมสำหรับกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนส.ค. และค่ายแมวแท้จริงเป็นสถานที่ฆ่าแมว โดยประเมินว่า จีนกำจัดแมวหนนี้มากถึง 500,000 ตัว
สงเคราะห์ - คุณยาย หู หยวน อายุ 80 ปี สงสารแมว รับเลี้ยงแมวจรจัดไว้ในบ้านตัวเอง ในกรุงปักกิ่ง ของจีน ร่วม 250 ตัว ขณะที่ทางการจีนเดินหน้าล้างบาง กำจัดแมว เพื่อเคลียร์เมืองก่อนถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งในเดือนส.ค.นี้ (ไชน่าเดลี่) |
เจ้าหน้าที่จีนจับแมวจรจัดที่เจ้าของนำมาปล่อยวันละหลายร้อยตัว
ใส่กรงเล็กๆ ส่งไปยังค่ายรับเลี้ยงแมวของรัฐ 12 แห่งรอบเมือง แต่กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์เรียกที่เหล่านั้นว่าค่ายมรณะ เพราะเข้าไปตรวจสอบไม่ได้และเชื่อว่าแมวที่ไปอยู่ที่นั่นจะถูกปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง และตายในที่สุด
กลุ่มรักสัตว์กลุ่มหนึ่งที่เจรจากับทางการเพื่อขอแมวในค่ายแมวมาเลี้ยง เผยว่า
เมื่อเข้าไปภายในสถานเลี้ยงแมวของรัฐพบว่า แมวราว 70 ตัวถูกขังในกรงที่กองซ้อนสุมกันอยู่ในห้องแคบๆ 2 ห้อง แมวในนั้นป่วยและแพร่เชื้อใส่กันจนค่อยๆ ตายไปทีละตัวอย่างทุกข์ทรมาน โดยไม่มีการรักษาเยียวยาใดๆ และไม่มีการให้กินข้าวกินน้ำ และระบุว่า สาเหตุที่ชาวบ้านนำแมวออกมาปล่อยทิ้งจำนวนมากนอกจากเรื่องกลัวเชื้อโรค คือ ทางการสั่งให้เจ้าของแมวนำแมวไปลงทะเบียนซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพง ถ้าไม่ทำจะถูกปรับ 200 หยวน หรือราว 880 บาท แต่กลุ่มรักสัตว์ทำอะไรมากไม่ได้ เนื่องจากเกรงบทลงโทษของทางการ ทั้งนี้ ปีก่อนจีนก็โดนนานาชาติจวกถึงความเหี้ยมโหดที่กำจัดสุนัขจรจัดทั่วประเทศเพื่อเคลียร์เมืองรับการจัดงานโอลิมปิก