ผบช.ก.ร่วม ดีอีเอ ของสหรัฐฯ แถลงจับชาวรัสเซียพ่อค้าอาวุธมัจจุราช เผยเป็นผู้ต้องหาที่อเมริกาล่าตัวมานานกว่า 10ปีแล้ว เตรียมฝากขังก่อนส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ด้านอัยการนิวยอร์กแฉผู้ต้องหาเอี่ยวส่งอาวุธกลุ่มกบฏโคลอมเบีย-ตอลิบาน มีแก๊งร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี
วันนี้ (7 มี.ค.) พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ นายโทมัส พี พาสกาเรโล
ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา หรือ ดีอีเอ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ประจำสถานเอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวิคเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท สัญชาติรัสเซีย เจ้าของฉายาพ่อค้าอาวุธมัจจุราช และเป็นบุคคลที่กระทำการอันเป็นการก่อการร้าย ตามหมายจับศาลอาญาข้อหา สะสมกำลังพลหรืออาวุธ, จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สิน,ให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย, ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อการร้ายหรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือยุยงประชาชนให้เข้ามีส่วนในการก่อการร้าย หรือรู้ว่ามีผู้จะก่อการร้ายแล้ว, กระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ระวางโทษจำคุก 2-10 ปี ปรับ 4 พัน - 2 แสนบาท
แถลงจับพ่อค้ามัจจุราช
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า
เท่าที่สอบสวนผู้ต้องหาอยู่ในประเทศเพียงคนเดียว ส่วน นายแอนดรู ซึ่งเป็นลูกน้อง ตำรวจกำลังสืบสวนอย่างเร่งด่วนว่าเข้ามากบดานด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเข้าประเทศทางท่าอากศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่ปรากฎชื่ออยู่ในบัญชีดำ และสันนิษฐานว่าเข้ามาใช้ไทยเป็นสถานที่ติดต่อซื้อขายอาวุธสงครามเท่านั้น โดยพฤติกรรมเป็นนายหน้า และทางการสหรัฐใช้เวลาสืบสวนติดตามตัวมานานกว่า 10 ปี กระทั่งมีเบาะแสว่า จะเดินทางมาประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-13 มีนาคม จึงประสานตำรวจไทยและนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว โดยวันพรุ่งนี้ จะคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ครั้งที่ 1 พร้อมคัดค้านการประกันตัว จากนั้นจะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของศาลไทยจนเสร็จสิ้น ก่อนส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีในประเทศต่าง ๆ ที่มีการร้องขอมา
ขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงข่าวเรื่องนี้เช่นกัน
โดย นายไมเคิล การ์เซีย อัยการแขวงนิวยอร์กตอนใต้ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกันของหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ หรือ ดีอีเอ เอฟบีไอ และตำรวจไทย พร้อมยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้เตรียมที่จะติดต่อจัดซื้ออาวุธมูลค่านับล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขายให้กับกลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายของโคลอมเบีย หรือ ฟาร์ค โดยเจ้าหน้าที่ดีอีเอ ได้ปฏิบัติทางลับในการหาข่าวและติดตามความเคลื่อนไหวของ บูท และ แอนดรูว์ สมูลเลียน ผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
ซึ่งนอกจากจัดหาอาวุธให้กับกลุ่มกบฏฟาร์คแล้ว
เจ้าหน้าที่สหรัฐยังเชื่อว่า นายบูท ยังเคยจัดซื้ออาวุธสงครามให้กับกลุ่มกบฏตอลิบาน ในอัฟกานิสถาน และกลุ่มติดอาวุธอีกหลายประเทศในแอฟริกาด้วย ล่าสุด ทางการสหรัฐ เตรียมประสานกับทางการไทย ในการส่งตัว บูท กลับไปดำเนินคดีในสหรัฐ ขณะที่อัยการศาลอาชญากรสงครามของสหประชาชาติใน เซียร่า ลีโอน ร่วมชื่นชมการจับกุมครั้งนี้เช่นกัน
นายบูท วัย 41 ปี
เกิดในทาจิกิสถาน เป็นอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศสหรัฐ เริ่มอาชีพค้าอาวุธหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต โดยหาซื้ออาวุธ เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ ในราคาถูกของโซเวียต และขายให้ฝ่ายที่สู้รบกันในภูมิภาคต่างๆ สามารถจัดหาขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศนับร้อยลูก รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ให้กับกลุ่มกบฏอย่างง่ายดาย และยังถูกกล่าวหาว่าค้าอาวุธให้กลุ่มหัวรุนแรง เช่น ตอลีบัน อัลกออิดะ จนเรื่องราวของเขาเคยถูกนำไปเขียนเป็นหนังสือเรื่อง พ่อค้าแห่งความตาย: เงิน ปืน เครื่องบิน และชายที่ทำให้สงครามเกิดขึ้นได้ เมื่อปีที่แล้วด้วย.