หญิงแอฟริกาใต้หลายร้อยคน แห่ชุมุนุม ประท้วงเรียกร้องสิทธิที่จะใส่มินิสเกิร์ตโดยไม่ถูกลวนลาม ขณะที่กลุ่มแท็กซี่หื่นไม่ยอมรับผิด โยนผู้หญิงรับผิดชอบเอง สวนกลับเป็นพฤติกรรมเสี่ยงถูกข่มขืนของพวกผู้หญิง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ว่า ผู้หญิงแอฟริกาใต้หลายร้อยคนได้พากันชุมนุมในกรุงโยฮันเนสเบิร์กเมืองหลวง เพื่อเรียกร้องสิทธิที่จะสวมชุดมินิสเกิร์ตหรือกระโปรงสั้น โดยไม่ถูกลวนข่มเหง โดยกลุ่มได้จัดการชุมนุมที่บริเวณถนนนูด ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุอื้อฉาวผู้หญิงสวมมินิสเกิร์ตรายหนึ่งถูกบรรดาโชเฟอร์แท็กซี่ฉีกทิ้งเสื้อผ้าโดยถูกหาว่าแต่งกายยั่วยวน เมื่อเดือนที่แล้ว โดยบรรดาผู้หญิงที่ประท้วงต่างสวมกระโปรงสั้น และถือข้อความเรียกร้องต่าง ๆ
อาทิ 'เรารักมินิสเกิร์ต' หรือ'เราไม่ใช่สัญญาณบนถนน 'พวกคุณต้องเคารพเรา'ขณะที่สมาชิกม็อบมินิสเกิร์ตที่ร่วมชุมนุมกล่าวว่า ทุกวันนี้ผู้หญิงที่ใส่มินิสเกิร์ตเสี่ยงอันตรายที่จะถูกลวนลามมาก พฤติกรรมเช่นนี้มักเกิดขึ้นเมื่อเราเดินบนบาทวิถี,หยุดซื้อของตามแผงลอย หรือเมื่อต้องเดินฝ่ากลุ่มผู้ชาย
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ สมาคมแท๊กซี่แอฟริกาใต้ได้ประนามเหตุการณ์อื้อฉาว
ทว่าชายแอฟริกาหลายคนกลับมองว่าเป็นเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องรับผิดชอบเอง โดยแท็กซี่รายหนึ่งบอกว่า ถ้าผู้หญิงใส่มินิสเกิร์ต ก็ถือว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกข่มขืนแล้ว ส่วนชายแอฟริการายหนึ่งมองว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องยั่วยุกิเลสผู้ชาย ทางด้านนางเรดี ดิเรโก้ นักจัดรายการวิทยุชื่อดังซึ่งเคยประสบถูกล่วงละเมิดบนรถแท๊กซี่มองว่า ปกติแล้ว อาชญากรรมข่มขืนผู้หญิงมักเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน แม้ว่าจะไม่สวมมินิสเกิร์ตก็ตาม โดยยกตัวอย่างย่าของเธอเคยถูกข่มขืนทั้งที่ไม่ได้สวมกระโปรงสั้น เช่นเดียวกับเธอที่ถูกล่วงละเมิดทั้งที่สวมเครื่องแบบนักเรียน
ทั้งนี้ แอฟริกาใต้มีสถิติผู้หญิงถูกข่มขืน 5 หมื่นคนต่อปี ติดสถิติสูงที่สุดของโลกด้วย แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขแท้จริงอาจมีจำนวนถึง 1 ล้านคนต่อปี