เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 22 ก.พ.
พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน นำหมายศาลจับกุมตัวนายสมศักดิ์ เปรมปราชญ์ อายุ 35 ปี อาชีพรับออกแบบตกแต่งภายใน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ จ 234/2551 ลงวันที่ 21 ก.พ.51 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน วิ่งราวทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 96/111 หมู่ 8 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ฝั๋งธนบุรี พร้อมยึดของกลางปืนสั้นอัดแก๊ส ลักษณะคล้ายปืนพกสั้นยี่ห้อก๊อก 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือโมโตโรล่า 1 เครื่อง
พ.ต.ต.ปิโยรสเปิดเผยถึงการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ว่า
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.พ. เวลา 21.30 น. น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ต.ศักดา ชัยศิริไมตรีกุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินีว่า ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้บังคับข่มขืนในรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ชค 9015 กรุงเทพมหานคร ภายในซอยตัวยู ถนนสารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. แถมยังเชิดเงินสดและโทรศัพท์มือถือไปด้วย
ทั้งนี้ เหยื่อสาวให้รายละเอียดว่า
ก่อนเกิดเหตุ แอบไปยืนขายบริการทางเพศข้างสวนลุมพินี ผู้ต้องหาขับรถไปซื้อบริการในราคา 800 บาท ตกลงไปหลับนอนกันที่โรงแรมร่วมฤดี แต่เมื่อขึ้นรถ ผู้ต้องหาไม่ยอมพาไปโรงแรม กลับเลี้ยวรถเข้าถนนสารสิน แล้วขับเข้าไปในซอยตัวยูซึ่งเป็นซอยเปลี่ยว จากนั้นจอดรถในมุมมืด ชักอาวุธปืนปลอมออกมาข่มขู่ จี้บังคับให้ถอดเสื้อผ้า ใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ ก่อนจะใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ภายในรถ หลังจากเสร็จกิจ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือไป พร้อมกับล้วงเอาเงินในกระเป๋าไปอีก 1,800 บาท ส่งให้เป็นค่ารถติดตัว 200 บาท ก่อนจะใช้ปืนจ่อหัวไล่ลงจากรถ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายสมศักดิ์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจับกุมตัวได้ที่บ้าน จากการตรวจค้น พบสิ่งเทียมอาวุธปืนจำนวนมาก รวมทั้งปืนปลอมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ
อ้างว่าในวันเกิดเหตุเดินทางไปแถวสวนลุมพินีจริง และพาผู้เสียหายขึ้นรถ ระหว่างทางเกิดทะเลาะกัน จึงพยายามข่มขืนผู้เสียหาย แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ทำให้ข่มขืนไม่สำเร็จ ส่วนที่หยิบโทรศัพท์มือถือผู้เสียหายไป เพราะกลัวว่าเหยื่อสาวจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ภายหลังสอบปากคำได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยต่อมาญาติผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 แสนบาท ประกันตัวออกไป