รวบแก๊งขโมยลิงที่ดงลิง บ้านหว้าน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ขณะวางกับดัก เจ้าตัวอ้างแค่ถูกจ้างให้ขับรถพามาเท่านั้น ปัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขโมยลิง ตร.ไม่ปักใจเชื่อ แจ้งข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ก่อนเร่งล่าคนร้ายอีก 2 คนที่หลบหนี
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์
พ.ต.ท.วิษณุ เรืองศรี พงส. (สบ 3) สภ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจาก นายเหรียญ โพธิบุตร อายุ 58 ปี ชาวบ้านหว้าน หมู่ 2 ต.หว้านคำ อ.ราษีไศล ว่า มีแก๊งคนร้ายมาขโมยจับลิงที่ดงลิง บ้านหว้าน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีฝูงลิงนับพันตัวอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ประชาชนจะมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นประจำ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่จะร่วมกับชุดสืบสายตรวจตำบลหว้านคำ เข้าไปจับกุมได้ผู้ต้องหา 1 คน พร้อมรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน บต 9455 กาฬสินธุ์ และลิงของกลาง 3 ตัว กรงใส่ลิง 2 กรง ถุงตาข่าย 20 ถุง ถั่ว ข้าวโพด กล้วยไว้ล่อฝูงลิง และอุปกรณ์การวางกับดักจับลิงจำนวนหนึ่ง ส่วนคนร้ายที่เหลือหลบหนีไปได้
สอบสวนเบื้องต้นทราบชื่อคือ นายอรุณ เกิดเพชร อายุ 38 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 355 บ้านวังสามหมอ หมู่ 22 ต.วังสามหมอ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างเหมารถยนต์มาเที่ยวดงลิง ที่บ้านหว้าน กับผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่หลบหนี ตนไม่ทราบว่าจะมาขโมยลิง จนเมื่อคืนขณะที่ทั้งสองคนวางกับดักลิง ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนั่งรอเขาจับลิงขึ้นรถยนต์ ขณะเดียวกัน หลังจากที่ชาวบ้านมาพบจึงแจ้งตำรวจมาไล่จับ ตนหนีไปทัน เพราะเป็นห่วงรถยนต์จึงถูกจับ
นายอรุณ กล่าวอีกว่า
ได้ยิน 2 คนพูดคุยกันว่าจะจับลิงไปขายส่งออกต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศเกาหลีจะให้ราคาดี เพราะเขาชอบกินกัน เชื่อว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย และที่เด็ดที่สุดคือสมองลิง โดยลิง 1 ตัว จะมีราคาตัวละ 3-5 พันบาท แต่ตนก็ไม่ได้ร่วมกับเขา เพียงแต่รอรับกลับ เพราะถูกว่าจ้างมาวันละ 2,000 บาท ซึ่งหากรู้ว่ามาแอบขโมยจับลิง ตนไม่มาด้วยแน่
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่บนรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานว่ามีการดำเนินการอย่างมืออาชีพ
ซึ่งคนขับรถยนต์มาก็ต้องทราบ ต้องสอบถามว่าเอาไปทำอะไร เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง (ลิง) และมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมสืบสวนเพื่อติดตามขบวนการจับลิงขายต่างประเทศมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น.สพ.ชิษณุ ติยะเจริญศรี รองประธานมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
การกินสมองลิงเป็นค่านิยมเพี้ยนๆ ของคนเกาหลี ซึ่งรัฐบาลยุคใหม่ของเขา พยายามนำความรู้และวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาเปลี่ยนความเชื่อค่านิยมผิดๆ เกี่ยวกับการกินสมองลิง ไม่ได้ช่วยบำรุงร่างกาย หรือมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่กลับนำเชื้อโรคร้ายมาสู่คนโดยตรง ซึ่งคนกับลิงมีความใกล้เคียงกันมาก โรคต่างๆ อย่างไวรัส แบคทีเรีย ที่เกิดจากลิงก็จะถ่ายทอดมาสู่คนได้
"กินสมองลิง ปัญหาจะตามมาเยอะมาก บางคนกินก็จะตายทันที เพราะลิงกับคนใกล้กันมากติดโรคได้โดยตรง เช่น ไวรัสตับอักเสบบี เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคกาฬหลังแอ่น เป็นต้น ส่วนพฤติกรรมการกินสมองมักจะตักเนื้อสมองมาลวกน้ำร้อน พอให้โปรตีนของสมองจับตัวกันเป็นก้อนเท่านั้น ทำให้เชื้อโรคยังไม่ทันตาย หากต้มสมองนานๆ ก็จะเปื่อยยุ่ย ทั้งนี้ การกินหมู กินเนื้อ อาจแค่นำโรคบางชนิดมาสู่คน แต่กินลิงจะนำโรคทั้งหมดในลิงมาสู่คน เช่น โรคเอดส์ก็คาดว่าจะติดต่อมาจากลิง แม้จะมีรายงานว่าเป็นไวรัสคนละชนิดกัน ขณะเดียวกัน ไวรัสที่เกิดในลิงก็ติดสู่คนได้เช่นกัน และยังรวมถึงโรคซาร์สที่เกิดจากการกินชะมด อีเห็นในจีน" น.สพ.ชิษณุ กล่าว
น.สพ.ชิษณุ เตือนว่า
ผู้ที่ลักลอบจับลิงไปขายนั้นต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เพราะลิงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และหากถูกลิงกัด ลิงข่วน อาจติดเชื้อพิษสุนัขบ้า และโรคอื่นๆ นอกจากนี้ ยังเป็นการทำลายระบบนิเวศของป่า อาจทำให้ต้นไม้บางชนิดสูญพันธุ์ เพราะสิ่งมีชีวิตในป่าต่างเกื้อกูลกัน ยิ่งเป็นการซ้ำเติมสภาวะโลกร้อนให้รุนแรงขึ้น