เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 20 ก.พ. พ.ต.ต.ชาญ จูงกระโทก สารวัตรเวร สภ. ครบุรี จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุช้างป่าไล่กระทืบพระภิกษุได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในเขตพื้นที่ป่าสงวนครบุรี
ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับอุทยานแห่งชาติทับลาน จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับเขื่อนห้วยทับครัว อ.ครบุรี จึงพร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นายยุทธนา ศรีเงินงาม หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 และเจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานกว่า 10 นาย เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางที่พระธุดงค์ใช้เดินเข้าป่าเพื่อจำวัดช่วงกลางคืน เนื่องจากต้องการความสงบวิเวกในการปฏิบัติธรรม
ในที่เกิดเหตุพบศพพระสงฆ์นอนมรณภาพคาผ้าเหลือง 1 รูป อยู่ข้างทางเดิน
ทราบชื่อพระณัฐพร กิตติญาโณ อายุ 34 ปี สภาพร่างกายแหลกเหลว เลือดไหลออกปากและจมูก แขนขาหัก รอบศพพบรอยตีนช้างขนาดใหญ่เหยียบย่ำไปทั่ว นอกจากนี้ยังมีพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บอีก 1 รูป ทราบชื่อพระวิเชียร เขมมะโก หลังเกิดเหตุได้เดินทางกลับเข้าหมู่บ้านเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง และชาวบ้านรีบนำพระวิเชียรที่ได้รับบาดเจ็บ ส่ง รพ.ครบุรี ก่อนจะส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เบื้องต้นพบว่ามีอาการกระดูกสันหลังและต้นคอเคลื่อน และมีรอยฟกซ้ำตามร่างกายหลายแห่ง ต้องนอนพักรักษาอาการอยู่ที่ตึกสงฆ์ แผนกกระดูกและข้อ ชั้น 5 รพ.มหาราชนครราชสีมา
สอบถามพระวิเชียร ผู้รอดชีวิตจากความคลุ้มคลั่งของช้างป่า ทราบว่า
พระวิเชียรและพระณัฐพรเดินทางมาจาก จ.พิจิตร มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์บ่อลิง ตั้งอยู่บ้านบ่อลิง ต.ทับลาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ในช่วงกลางวันจะอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์ พอตกกลางคืนจะเดินเข้าป่าไปหาสถานที่วิเวกปักกลดทำสมาธิเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ก่อนเกิดเหตุในช่วงบ่ายวันที่ 20 ก.พ. มีพระสงฆ์ 3 รูป เดินทางเข้าป่าไปก่อนแล้วเพื่อนั่งสมาธิเหมือนทุกวัน ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน พระวิเชียร และพระณัฐพรจึงเข้าป่าไปปักกลดตามกิจวัตรที่ปฏิบัติเช่นทุกวัน แต่หลังจากที่เดินเข้าป่าไปได้ราว 2-3 กิโลเมตร ปรากฏว่าพบกับช้างป่าขนาดใหญ่เดินมาตามถนนเพียงตัวเดียว พระทั้ง 2 รูป จึงชวนกันหลบเข้าชายป่าข้างทาง ยืนสงบนิ่งเพื่อให้ช้างผ่านไปก่อน