เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 20 ก.พ. พ.ต.ต.สมบัติ พรมสอาด สารวัตรเวร สภ.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
รับแจ้งเหตุยิงถล่มกันมีผู้เสียชีวิตบนถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ระหว่าง กม.ที่ 329-330 หมู่ 9 บ้านนาทอง ต.คลองวาฬ จึงรายงานให้ พ.ต.ท.สมชัย สิทธิชัย สวญ. พ.ต.ท.อุดม บุญยรัตน์ สวป. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.วิรัช ทองไทย สว.วท.บก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์
ที่เกิดเหตุริมถนนก่อนถึงสามแยกทางเข้า สภ.คลองวาฬ ประมาณ 20 เมตร
พบรถปิกอัพนิสสัน ฟรอนเทียร์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บต 7362 ประจวบคีรีขันธ์ ข้างรถติดสติกเกอร์หาเสียงของนายสุทธิชัย เกตุรักษา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จอดเสียหลักหัวทิ่มในคูข้างถนน กระจกประตูขวาถูกยิงแตกละเอียด ส่วนกระจกประตูซ้ายมีรอยกระสุนเจาะทะลุพรุน กระจกแตกร้าวทั้งบาน เบาะนั่งคนขับมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อนายไพทูรย์ จันทร์เกษม อายุ 43 ปี เจ้าของฟาร์มหมูชื่อ “ไพทูรย์ฟาร์ม” อยู่บ้านเลขที่ 27/3 หมู่ 2 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าศีรษะด้านขวา กับต้นแขนขวาพรุน ในที่เกิดเหตุพบหมอนรองกระสุนลูกปืนซองตกอยู่
สอบสวนนางศุภมาส สร้อยนวม อายุ 39 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การทั้งน้ำตาว่า
ก่อนเกิดเหตุสามีขับรถออกจากบ้านจะไปธุระด้วยกัน โดยตนนั่งคู่เบาะหน้า ถึงที่เกิดเหตุห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร ถูกคนร้ายนั่งรถปิกอัพ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน สีบรอนซ์เงิน กระบะหลังติดตั้งลูกกรงคล้ายรถบรรทุก ขับแซงประกบจากนั้นมือปืนที่นั่งมากระบะหลัง ลุกขึ้นยืนใช้ปืนลูกซองยาวพาดวางบนรั้วลูกกรงแล้วลั่นกระสุนยิงเข้าใส่ศีรษะพรุน แต่สามียังพอมีสติพยายามประคองรถจอดข้างทาง จังหวะเดียวกัน ทีมสังหารไม่ปล่อยให้เหยื่อหนีรอดมัจจุราช รีบจอดรถให้มือปืนตามมาจ่อยิงซ้ำเข้าไหล่ซ้ายพรุนอีกนัด แล้ววิ่งไปขึ้นรถพากันหลบหนี โดยคนร้ายไม่แตะต้องนางศุภมาสที่นั่งหมอบหลบกระสุนตกใจกลัวตัวสั่นอยู่
ขณะที่แนวทางการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายทำฟาร์ม เลี้ยงหมูรายใหญ่ในพื้นที่ มีฐานะดีระดับเสี่ยคนหนึ่ง
ขณะที่บทบาททางสังคมเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหัวคะแนนผู้สมัครนายกเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ อีกทั้งยังเป็นอาสาสมัคร อปพร.อบต.คลองวาฬ อีกด้วย ก่อนหน้านี้ผู้ตายถูกจับกุมคดียักยอกทรัพย์ ศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน เพิ่งพ้นโทษมาได้ราว 2 เดือน โดยก่อนติดคุก ถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่บางคนขู่อาฆาตไว้ เพราะมีปัญหากันเรื่องหนี้สิน ในชั้นนี้พุ่งปมขัดแย้งปัญหาหนี้สินเป็นหลัก ขณะที่ปมการเมืองท้องถิ่นกับการ เมืองระดับชาติก็ยังไม่ตัดทิ้ง จะได้สอบสวนคลี่คลายคดีให้แน่ชัดต่อไป