ลุ้นระทึกใหม่อีกรอบตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอแด็ก-ฝ้าย-น้องจัสติน

ลุ้นระทึกใหม่อีกรอบ ตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ แด๊ก-บิ๊กแอส-น้องฝ้าย คุณหญิงพรทิพย์ลงมือเจาะเลือดเอง อีก 3 วันรู้ผลแน่ จัสติน มีสายเลือดของนักร้องคนดังหรือไม่ เผยหลังจากสถาบันนิติเวชตรวจไปแล้วครั้งแรก แต่อีกฝ่ายยังค้าง คาใจ สุดท้ายจำเป็นต้องใช้ 2 หน่วยงานกลาง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และโรงพยาบาลรามาธิบดี ช่วยเร่งตรวจสอบรอบสอง เพื่อตัดสินชี้ขาด ล่าสุดดาราสาวนักกฎหมายคนเก่ง "ตุ๊ก-วิมลเรขา" ยื่นมือช่วยเป็นทนายความให้ "น้องฝ้าย" ขณะที่นักร้องคนดัง เชิญสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน

จากเรื่องราววุ่น ๆ เกี่ยวกับผลตรวจดีเอ็นเอ พิสูจน์ความเป็นพ่อ-เเม่-ลูก ของนายเอกรัตน์ วงศ์ฉลาด หรือ "แด๊ก บิ๊กแอส" นักร้องดังกับน้องฝ้าย (ขอสงวนชื่อจริง) อายุ 17 ปี นางแบบนิตยสารฟอร์เมน เเละ "น้องจัสติน" หนูน้อยไร้เดียงสาซึ่งกำลังจ้ำม่ำน่ารัก เบื้องต้นผลออกมาปรากฏว่าดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ทำเอาให้ "น้องฝ้าย" ยังค้างคาใจเกี่ยวกับการตรวจเนื่องจากไม่ได้ไปเจาะเลือดพร้อมกันทั้ง 3 คน จึงตัดสินใจประกาศท้าให้นักร้องหนุ่มมาเจาะเลือดตรวจพร้อมกันอีกครั้ง โดยให้ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตรวจ พร้อมเชิญสื่อมวลชนร่วมเป็นพยานหากผลออกมาอย่างไรจะยอมรับทุกอย่าง ตามที่ได้เสนอข่าวไปเเล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม "น้องฝ้าย" พร้อมด้วยบุตรชาย "จัสติน" และ "ตุ๊ก-วิมลเรขา ศิริชัยราวรรณ" ดาราสาวนักกฎหมาย ซึ่งอาสามาเป็นทนายความได้เดินทางเข้าพบ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อขอคำปรึกษาและทราบถึงขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ความสัมพันธ์พ่อแม่ลูกเป็นครั้งที่สอง หลังจากผลการตรวจดีเอ็นเอ ของสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปยืนยันว่า ดีเอ็นเอของแด๊ก บิ๊กแอส ไม่ตรงกับน้องจัสติน ทำให้น้องฝ้าย อยากจะหาหน่วยงานกลางให้มาช่วยตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง

พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยว่า น้องฝ้าย แม่ และทนายอาสาที่ดูแลคดีได้มาเข้าพบเพื่อขอคำปรึกษาถึงความน่าเชื่อถือของการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเออีกครั้ง ตนได้ยืนยันว่าดีเอ็นเอไม่ เคยผิดพลาด ความผิดพลาดเกิดจากคนเท่านั้นและชี้แจงว่าทุกอย่างต้องโปร่งใส เมื่อผลการตรวจ ดีเอ็นเอออกมา น้องฝ้ายจะได้รับผลการตรวจที่แสดงออกมาเป็นกราฟแสดงความสัมพันธ์โดยตรง ไม่ผ่านทางสื่อ ส่วนฝ่ายนักร้องสังกัดแกรมมี่ฯ นั้น ได้ยืนยันว่าจะขอให้มีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ของ 2 สถาบันตนก็ไม่ขัดข้อง แต่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ขอให้ทางบริษัทแกรมมี่ฯ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตรวจดีเอ็นเอทั้งหมด คนละ 4,500 บาท

รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวอีกว่า การหารือกับทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปว่า จะมีการเจาะเลือดตรวจดีเอ็นเอใหม่ พิสูจน์ความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก ระหว่างน้องฝ้าย น้องจัสติน และแด๊ก ในวันที่ 16 พ.ค. เวลา 15.00 น. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งได้ประสานไปยัง ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ให้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยนิติเวช มาเก็บตัวอย่างเลือดของทั้ง 3 คนไปตรวจที่รพ.รามาฯ อีกทาง ตามความประสงค์ของนักร้องหนุ่ม เพราะน้องจัสตินยังเด็กหากต้องเดินทางไปเจาะเลือดหลาย ๆ ครั้งเกรงว่าไม่เป็นผลดีกับเด็ก

สำหรับขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอนั้นจะ ต้องเจาะเลือดของน้องฝ้าย และแด๊ก ประมาณ 3 ซีซี ส่วนของน้องจัสติน จะใช้วิธีป้ายกระพุ้งแก้มเก็บตัวอย่างเลือด ก่อนบันทึกเป็นบาร์โค้ด ไม่ระบุชื่อบนหลอดก่อนส่งเข้าห้องแล็บ นำน้ำยาเคมีหยดสกัดดีเอ็นเอ โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าเลือดหลอดใดเป็นของใครเพราะหลอดตัวอย่างเลือดทั้งสามจะถูกส่งตรวจพร้อมกับหลอดตัวอย่างเลือดของบุคคลอื่น ซึ่งส่งตรวจดีเอ็นเอเช่นกันหลายคู่เพื่อความโปร่งใสเมื่อสกัดดีเอ็นเอแล้วจะนำผลเข้าคอมพิวเตอร์ ประมวลผลออกมาเป็นกราฟ

ทั้งนี้หากผลดีเอ็นเอของเด็กออกมาตรงกับของทั้งสองฝ่ายอย่างละครึ่งก็สรุปว่าเป็นพ่อแม่ลูกกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์และน้ำยาเคมีที่ใช้สกัดดีเอ็นเอครั้งนี้ สเปกเหมือนกับสถาบันนิติเวชทุกอย่าง และทุกขั้นตอนการตรวจจะมีการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าผลจะออกได้ภายใน 3 วัน ถึงแม้ว่าผลตรวจดีเอ็นเอครั้งแรกน้องฝ้ายยังไม่ได้รับแต่ก็ไม่มีผล ส่วนสื่อมวลชนจะเข้าเป็นสักขีพยานหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย

"น้องฝ้าย" กล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้นหลังเข้าพบ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ หากผลการตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ออกมาอย่างไรก็จะยอมรับ ส่วน "ตุ๊ก-วิมลเรขา" ทนายความอาสากล่าวว่า การตรวจดีเอ็นเอครั้งนี้ น้องฝ้ายไม่ได้คาดหวังอะไร เพียงแต่อยากทราบว่าพ่อน้องจัสตินใช่แด๊กหรือไม่ หลังจากนี้จะไปติดต่อกับทางสถาบันนิติเวช เพื่อขอรับผลการตรวจดีเอ็นเอก่อนหน้านี้มาเก็บไว้

ด้าน "แด๊ก" ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ยินดีที่จะตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเออีกครั้งพร้อมกันทั้ง 3 คน และขอให้ตรวจอย่างน้อย 2 สถาบัน พร้อมเชิญสื่อมวลชนร่วมไปเป็นสักขีพยานด้วยเพื่อความกระจ่างและชัดเจนที่สุด โดยได้ประสาน ไปยัง พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการตรวจบัตรประชาชน บันทึกภาพถ่ายรูป การเจาะเลือดเอาไว้ทุกขั้นตอนเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จะได้ไม่มีข้อกังขาใด ๆ อีก ผมเชื่อมั่นในความเป็นกลางของทุกสถาบันเพื่อจะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นคลี่คลายและมีบทสรุปที่ชัดเจนที่สุด.