“รมว.วัฒนธรรม” ควงคณะตรวจดูวัดบางปลาหมอ เมืองกรุงเก่า หลังมารศาสนาย่องลอกทององค์พรนอนเก่าแก่
ยันโจรใจบาปได้ทองไปไม่ถึง 15 ล้านบาท หวั่นระบาดกลายเป็นแฟชั่น วอนหยุดทำลายพระพุทธศาสนา ด้านผู้ว่าฯ อยุธยา สั่งล้อมคอกคุมเข้มวัดและโบราณสถานสำคัญขึ้นทะเบียนถ่ายรูปทำประวัติไว้ ขณะที่ “ผบช.ภ.7” เต้นสั่งคุมเข้มวัดทุกแห่งใน 8 จังหวัดรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 ก.พ. นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมผู้เชี่ยวชาญของกรมศิลปากร
เดินทางไปตรวจดูที่วัดบางปลาหมอ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา หลังโจรใจบาปแอบลอกเอาทองคำเปลวจากองค์พระพุทธไสยาสน์มงคลสรรเพชญ หรือพระนอนเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี และที่ประตูโบสถ์ไป หลังตรวจดูประมาณ 1 ชั่วโมง นาย อนุสรณ์เปิดเผยว่า ทองคำเปลวจากองค์พระที่คนร้ายลอกไปจากวัดแห่งนี้ รวมทั้งที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรวิหาร จ.นครปฐม ที่ข่าวบอกว่าสูญเสียถึง 15 ล้านบาทนั้น ความจริงไม่น่าจะถึง เกรงว่าข่าวที่ออกไปคนร้ายจะทำกันเป็นแฟชั่น ความจริงองค์พระถูกทำลายไป 60 ตร.ม. คำนวณแล้วประมาณ 3.6 แสนบาท และไม่คุ้มค่าเลยกับการทำลายพระพุทธศาสนา และไม่คุ้มค่าที่จะโจรกรรม อยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาช่วยกันดูแล ส่วนคดีก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนเรื่องการบูรณะ ทางกระทรวงฯพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากรมาตรวจสอบให้ละเอียดและประเมินมูลค่าเสนอมาตามลำดับขั้นตอน
นายสุชาติ เบ้านุวงศ์ นักวิชาการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า
หลังตรวจสอบรายละเอียดแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่สาเหตุทองคำเปลวลอกมาจากความชื้น แต่น่าจะเป็นคนร้ายโจรกรรมด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ขูดลอกทองออกไป ซึ่งจะรีบรายงานให้กับ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับทราบ ขณะที่ พ.ต.ท.มนตรี คงเตี้ย สวส.สภ.พระขาว เจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นวางเป้ากลุ่มต้องสงสัยไว้ 4 กลุ่มคือ 1.กลุ่มคนที่ยังอยู่ในวัด 2.กลุ่มคนที่เคยอยู่ในวัดแต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว 3.พวกขี้ยาในชุมชน และ 4.คนทั่วไปที่เข้ามากราบไหว้พระในวัด แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าแก๊งคนร้ายจะใช้วิธีเอาน้ำยาเคมีมาราดแล้วขูดเอาทองคำเปลวออกไป เพราะได้เรียกร้านรับซื้อทองคำเปลวใน อ.บางบาล อ.เสนา มาสอบสวนแล้ว แต่ไม่พบว่ามีคนมาเสนอขายทองคำเปลว