พ่อคลั่งเชือดคอลูกชาย12 ขวบดับ แล้วกินยาฆ่าหญ้าตายตาม
เผยหนุ่มสวนยางเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ประกอบกับลูกชายก็ตาบอดทั้งสองข้างมาแต่กำเนิด จึงเครียดจัด อาศัยช่วงที่เมียออกไปกรีดยาง ใช้มีดเชือดคอลูกชายดับสยอง แล้วกรอกยาพิษดิ้นทุรนทุรายอยู่ในบ้าน เมียมาเจอพาส่งร.พ.แต่ก็สายเกินไป เชื่อคงเกิดอาการเครียดจากปัญหาโรคภัยไข้เจ็บ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 19 ก.พ. พ.ต.ท.เชษฐรัตน์ ชาตะรักษ์ สารวัตรเวร สภ.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรี ธรรมราช
รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 251 ม.5 ต.นากะชะ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสอบสวน แพทย์และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เมื่อไปถึงบ้านดังกล่าว พบศพผู้ตายทราบชื่อคือ ด.ช.จาตุรนต์ พลพิชัย อายุ 12 ขวบ สภาพศพมีบาดแผลถูกเชือดด้วยอาวุธมีดที่ลำคอ เป็นแผลเหวอะหวะหลอดลมขาด เลือดนองพื้น ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบมีดเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม ขวดน้ำยาฆ่าหญ้ายี่ห้อกรัมม็อกโซนไม่มีน้ำยาเหลือ 1 ขวดจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ทราบว่ายังมีผู้บาดเจ็บ คือนายสนธยา พลพิชัย อายุ 34 ปี บิดาด.ช.จาตุรนต์ ญาติๆ นำส่งร.พ. ถ้ำพรรณราในสภาพน้ำลายฟูมปาก มีบาดแผลเหวอะหวะที่ลำคอ ต่อมาส่งตัวไปรักษาต่อที่ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราช แต่นายสนธยา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตหลังถึงร.พ.ไม่นาน
จากการสอบสวนนางวิภารัตน์ พลพิชัย อายุ 29 ปี ภรรยาของนายสนธยา มารดาด.ช.จาตุรนต์ ให้การว่า
พวกตนมีอาชีพทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดตนออกจากบ้านไปกรีดยางในสวนยางพารา ส่วนนายสนธยา ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งตับในระยะสุดท้าย และ ด.ช.จาตุรนต์ลูกชาย ซึ่งพิการตาบอดตั้งแต่กำเนิดทั้งสองข้าง นอนในบ้านกันสองคน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าลูกชายนอนจมกองเลือด ส่วนนายสนธยานอนดิ้นทุรนทุราย ร้องครวญครางอยู่ จึงรีบร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายสนธยาเกิดอาการเครียดจากการเป็นมะเร็งในระยะสุดท้าย
อาจจะเกิดอาการโรคประสาทหลอนจนคลุ้มคลั่งคว้ามีดแล้วจับด.ช.จาตุรนต์ ลูกชายเชือดคอจนตายคามือ จากนั้นนายสนธยาเกิดความสำนึกและกลัวความผิด จึงซดน้ำยาฆ่าหญ้า และใช้มีดปลายแหลมเล่มเดียวกันเชือดคอตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่ตาย ก่อนจะเสียชีวิตตามลูกชายขณะพาส่งโรงพยาบาล