หนุ่มตายพิสดาร!! คว้ามีดแทงอก-พุ่งหลาวชั้น 5 ดับคาที่

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤษภาคม 2549 19:30 น.

หนุ่มเครียดโรคร้าย คว้ามีดปลายแหลมแทงศีรษะ ปักอก เลือดโชกเป็นบาดแผลฉกรรจ์ แต่ไม่ตายสมใจ กระโดดพุ่งหลาวจากระเบียงชั้น 5 ศีรษะกระแทกพื้นดับอนาถ

วันนี้ 14 พ.ค. ร.ต.อ.ไมตรี สามาอาภัตร์ สารวัตรเวรสน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุมีคนกระโดดลงมาจากห้องพักเลขที่ 405 ชั้น 5 อาคารอนัตตาอพาร์ทเม้นท์ ซอยพงษ์เพชรดำเนิน เลขที่ 207/246 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. เสียชีวิต จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย แพทย์และรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผกก.สน.ประชาชื่น และพ.ต.ท. ปริญญา เหลืองอุทัย สวป.สน.ประชาชื่น

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณริมทางเดิน ชั้นล่างของอพาร์ทเม้นท์ เจ้าหน้าที่พบศพชายเสียชีวิต อยู่ในชุดกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ สภาพศพนอนคว่ำหน้า กระดูกแขนซ้ายหัก พบบาดแผลถูกแทงด้วยมีดจำนวน 3 แห่ง ที่กลางหน้าอก ศีรษะและกกหูด้านซ้าย ส่วนบริเวณไหล่ขวา มีรอยสักรูปแมงป่อง จากนั้นได้ตรวจค้นตัวผู้ตายเจ้าหน้าที่พบกระเป๋าสตางค์ภายในมีเงินสดจำนวน 540 บาท ตั๋วจำนำ 1 ใบ และบัตรประจำตัว ระบุชื่อ นายเสด็จ นามโคตร อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 57 ม.11 ต.วังประจวบ อ.เมือง จ.ตาก คาดว่าเป็นของผู้ตาย

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก เลขที่ 405 ซึ่งเป็นห้องของผู้ตาย พบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด1 ด้าม ตกอยู่บริเวณปลายเตียงนอน ขวดเปล่าเบียร์ยี่ห้อสิงห์ วางอยู่จำนวน 3 ขวด และบนพื้นพบรอยเท้าเปื้อนเลือดเป็นทางยาวออกไปทางระเบียง แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย

จากการสอบสวนนายณัฐพล แซ่หลี อายุ 30 ปี ห้องพักเลขที่ 406 ซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องพักผู้ตาย ให้การว่า เคยเห็นผู้ตายเดินออกนอกห้องหลายครั้ง ซึ่งผู้ตายมักจะใช้ผ้าโพกศีรษะเกือบตลอดเวลา เมื่อคืนที่ผ่านมายังเห็นผู้ตายเปิดประตูห้องนั่งดื่มเบียร์และดูฟุตบอล ล่าสุดขณะเกิดเหตุ ตนเปิดประตูห้องพักไว้ จึงเห็นผู้ตายวิ่งออกมาจากห้องผ่านไปยังระเบียงหอพัก คล้ายกับคนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้กระโดดลงไปด้านล่างจนเสียชีวิต

ด้าน พ.ต.อ.วัชรพงศ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจเครียดจากโรคประจำตัว ขณะเกิดเหตุผู้ตายจึงใช้มีดปลายแหลมแทงตัวเองแต่ไม่เสียชีวิตทันที จึงวิ่งมากระโดดตกจากระเบียงหอพักจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป