รสนา โต้ พารวย แจ้งความเท็จนำประวัติลงเว็บไซต์หาเสียง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤษภาคม 2549 18:21 น.
รสนา โตสิตระกูล แถลงโต้ หลังรู้ว่า พารวย ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ว.ด้วยกันเองนำหลักฐานเท็จไปร้อง กกต และแจ้งความดำเนินคดี กล่าวหาว่า นำประวัติแนะนำตัวเองลงเว็บไซต์มูลนิธิสุขภาพไทย เรียกร้อง กกต.เข้ามาตรวจสอบ ลั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม จะฟ้องศาลปกครอง เตือนเข้าข่ายความผิดทางอาญา ถึงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ว่าที่ ส.ว.กทม.แถลงข่าวร่วมกับ นายวีรพงษ์ เกรียงสินยศ ผู้จัดการมูลนิธิสุขภาพไทย นายชัยรัตน์ แสงอรุณ กรรมการสิทธิมนุษยชนของสภาทนายความ
น.ส.รสนา กล่าวว่า การที่ กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 5 คน ซึ่งไปร่วมเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ยังไม่มีการส่งเอกสารหรือเชิญให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา
น.ส.รสนา กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นมีคณะอนุกรรมการสอบสวนของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งมาว่า นายพารวย จันทร์สกุล ผู้สมัคร ส.ว.กทม.หมายเลข 181 ไปร้องที่ กกต.และ สน.อุดมสุข ว่า ตนนำประวัติไปลงในเว็บไซต์ของมูลนิธิสุขภาพไทย เมื่อวันที่ 11-14 เมษายนที่ผ่านมา โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้ได้เชิญนายวีรพงษ์ ไปสอบสวน ซึ่งทราบมาว่า นายพารวย ได้นำเอกสารเท็จไปร้องต่อ กกต.และไปแจ้งความดำเนินคดี
มีผู้หวังดีโทรศัพท์มาบอกว่า คณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า มีมูลความผิดจริงตามที่มีการกล่าวหา ซึ่งดิฉันเห็นว่าการที่นายพารวย นำข้อมูลเอกสารเท็จไปแจ้ง เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 91 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ซึ่งหากมีความผิดก็จะถูกใบแดง และถูกระวางโทษอาญารวมทั้งการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง น.ส.รสนา กล่าว
น.ส.รสนา กล่าวด้วยว่า จากการหารือกับฝ่ายกฎหมาย ตนจะแจ้งความดำเนินคดีนายพารวย ในวันอังคารที่ 16 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น.ในข้อหานำเอกสารเท็จไปแจ้งความ จึงต้องการฟ้องเพื่อพิสูจน์ตัวเอง และดำเนินคดีกับผู้ใช้เอกสารเท็จฟ้องคดี ทั้งนี้ ยืนยันว่า ในช่วงที่ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่เคยนำประวัติไปลงในเว็บไซต์ แต่ยอมรับว่า เคยทำก่อนที่จะลงสมัคร อย่างไรก็ตาม ได้ลบข้อมูลออกไปแล้ว เพราะทราบว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง เรื่องนี้ผู้สมัครต่างทราบดี จึงหวังว่า กกต.จะพิจารณาคดีนี้ด้วยความรอบคอบและเป็นธรรม
แปลกใจที่ไม่มีการหาข้อมูลหรือเปิดดูในเว็บไซต์ คณะอนุกรรมการเพียงแต่เชิญให้เจ้าหน้าที่ไปยืนยัน จึงอยากให้ กกต.กลางเข้ามาตรวจดูเรื่องนี้ และเห็นว่า มีการใช้วิชามาร พยายามสอย หรือให้ใบแดง ส่วนตัวไม่รู้จักกับนายพารวย และไม่เคยมีเรื่องขัดแย้ง แต่แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งก็มีคนอื่นที่ร้อง แต่ไม่มีการทำเอกสารเท็จ การถูกตั้งประเด็นจะสอย ทราบว่า มีอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปด้วยความชอบธรรม ถ้าเราชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว กกต.ยังตัดสินลงโทษด้วยความไม่ชอบธรรมก็จะสู้อย่างเต็มที่ และจะฟ้องศาลปกครองต่อไป น.ส.รสนา กล่าว
น.ส.รสนา ยังกล่าวถึงกรณีที่ไปขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาจาก กกต.ยืนยันว่า การขึ้นเวทีไม่ได้พูดแนะนำตัว แต่เป็นการพูดวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต รวมทั้งไม่ได้พูดใส่ร้ายผู้ใดผู้หนึ่ง เพราะถ้าพูดใส่ร้ายใคร บุคคลผู้นั้นก็คงจะฟ้องร้องตนแล้ว
ด้าน นายวีรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อนุกรรมการสอบสวนได้เชิญตนไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อไปชี้แจงเกี่ยวกับเว็บไซต์ดังกล่าวด้วยวาจา โดยได้นำเอกสารมาให้ดูว่ามีผู้ร้อง น.ส.รสนา ซึ่งรู้สึกแปลกใจว่าทำไมคณะอนุกรรมการสอบสวนเปิดเว็บไซต์ดูแล้วบอกว่าไม่มี แต่ตนเข้าใจว่า อนุกรรมการไม่ได้เปิดดู แต่ดูจากเอกสารร้องเรียนเท่านั้น และเมื่อหารือกับกรรมการมูลนิธิแล้วจะให้การเป็นลายลักษณ์อักษรว่าข้อมูลของ น.ส.รสนา ที่อนุกรรมการอ้าง และที่ นายพารวย ร้องเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ไม่เป็นความจริง
ขณะที่ นายชัยรัตน์ กล่าวว่า จากการพิจารณาข้อกฎหมาย ถ้าใช้เอกสารเท็จแจ้งความนอกจากจะผิดกฎหมายอาญาแล้ว ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะมีการตัดแปะแล้วนำมากล่าวหา ซึ่งในส่วนนี้สามารถตรวจสอบได้จากผู้ดูแลเว็บไซต์ ที่เมื่อแก้ไขข้อความหรือเปลี่ยนแปลงในเว็บไซต์ก็จะมีรายละเอียด