เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ม.ค. พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช สารวัตรเวรสภ.เมือง สุราษฎร์ธานี
รับแจ้งความจากนายพาเนต์ อองนาเฮ อายุ 58 ปีชาวฝรั่งเศส และเพื่อนนักท่องเที่ยวอีก 7 รายว่า ถูกคนร้ายในรถทัวร์ขโมยทรัพย์สินระหว่างเดินทางไปจ.กระบี่ จึงประสานพ.ต.ท.กริช แสงพล สว.ด่านตม.สุราษฎร์ธานี ร่วมสอบสวนและประสานเจ้าหน้าที่สกัดจับรถคันดังกล่าว
นายพาเนต์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนนักท่องเที่ยวโดยสารรถทัวร์นำเที่ยวออกจากกทม. เวลา 20.00 น. วันที่ 28 ม.ค. เพื่อไปจ.กระบี่ มีผู้โดยสาร 29 คน ทั้งหมดเป็นชาวต่างประเทศ
เมื่อเดินทางมาถึงจ.สุราษฎร์ธานี เวลา 06.00 น. วันที่ 29 ม.ค. รถทัวร์คันดังกล่าวแวะจอดที่ตลาดเกษตร 2 อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เด็กรถก็บอกให้พวกตนที่นั่งโดยสารรวม 8 คน ลงจากรถให้ไปซื้อตั๋วรถที่จะไปจ.กระบี่เอง ท่ามกลางความงุนงงและสับสน และรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่จากสุราษฎร์ธานีอีก 21 คนขึ้นแทนก่อนขับออกไป หลังจากนั้นพวกตนตรวจสอบในกระเป๋าปรากฏว่าเงินสดของพวกตนทั้ง 8 คน รวมเป็นเงิน 81,800 บาทถูกขโมยไป จึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งด่านสกัดจับรถทัวร์คันดังกล่าว และจับได้ที่ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี
จึงควบคุมรถกลับมาที่สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นรถทัวร์นำเที่ยวสีขาว หมายเลขทะเบียน 331-4430 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท ทัวร์ถุงเงินทอง จำกัด มีนายณรงค์ศักดิ์ พิมพ์ศรีกล่ำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 5 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม และนายพิเชษ อาจทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 540 ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นคนขับรถ นายคำพอง สู่ศึก อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 7 ต.ห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ เป็นเด็กรถ พร้อมของกลางเงินสด 81,800 บาท
จากการสอบสวนทั้งสามให้การรับสารภาพว่า
ร่วมกันขโมยเงินของกลุ่มของนายพาเนต์จริง โดยอาศัยช่วงกลางคืนที่กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มของนายพาเนต์หลับ นายคำพองคลานลงไปที่ช่องเก็บกระเป๋าเดินทาง แล้วเปิดกระเป๋าหยิบเงินในกระเป๋าของกลุ่มนายพาเนต์ที่วางอยู่รวมกันเอาเงินไป จากนั้นเมื่อถึงตอนเช้าจึงหาเรื่องไล่ลงจากรถ เพราะเห็นว่าเป็นชาวต่างชาติโต้เถียงไม่ได้ ก่อนจะขับรถไป ไม่คิดว่านักท่องเที่ยวจะรู้ตัวว่าถูกขโมยเงินอย่างรวดเร็ว
ด้านนายพาเนต์กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องดังกล่าว เพราะกลุ่มตนชื่นชอบประเทศไทยมาก มาท่องเที่ยวทุกปี ปีละ 3 เดือน จากนี้จะอยู่เป็นพยานในชั้นศาลให้ดำเนินคดีผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด