เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 29 ม.ค. พ.ต.ท.บุญช่วย สมใจ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาบ้านลาด ตั้งอยู่ริมถนน สายบ้านลาด-เพชรบุรี หมู่ 6 ต.บ้านลาด จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อม ด้วย พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ ผกก.สภ.บ้านลาด และ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุเป็นอาคารหลังใหญ่ 3 ชั้น ตั้งอยู่ตรงข้าม กับตลาดค้าผักและผลไม้ของสหกรณ์การเกษตรอำเภอบ้านลาด เยื้องกับปั๊มน้ำมัน ปตท. และเป็นเขตชุมชนที่มี คนสัญจรไปมาจำนวนมาก เนื่องจากเป็นถนนสายหลักที่ มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านส่วนหนึ่งยืน มุงดูเหตุการณ์อยู่หน้าธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันออกห่าง
ตรวจสอบบริเวณชั้นล่างของธนาคารมีเคาน์เตอร์ ไว้สำหรับลูกค้าฝากถอนเงิน ด้านซ้ายเป็นห้องทำงานของผู้จัดการธนาคาร โดยมีนายพีรพงศ์ คำชื่น อายุ 45 ปี ผู้จัดการ ยืนรออยู่กับเจ้าหน้าที่อีกเกือบ 10 คน ท่าทางยังไม่หายจากอาการตื่นตระหนก จากการสอบสวนได้ความว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วง ที่ธนาคารใกล้ปิดทำการ โดยมีลูกค้ามาใช้บริการฝากถอน เงินเหลืออยู่ประมาณ 3-4 คน จู่ๆมีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเทา-ดำ มาจอดบริเวณหน้าประตูทางเข้าธนาคาร คนขี่สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีแดง สวมเสื้อแจ็กเกตสีเทา นุ่งกางเกงยีนสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน สวมหมวกไหมพรม สีดำ ปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงยีนสีน้ำเงิน และสวมรองเท้าผ้าใบ โดยคนร้ายได้ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้
จากนั้น ทั้งหมดเดินปรี่เข้ามาด้านในก่อนที่คนร้าย ที่สวมหมวกไหมพรม 2 คน
จะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ พร้อมกับชักปืนพกคนละกระบอกตรงเข้าไปจี้บังคับนายธันยพัฒน์ บังสุริยะ อายุ 32 ปี และนางสุภาพร รุ่งโรจน์ อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินที่กำลังนับเงินอยู่ที่โต๊ะทำงานเพื่อนำเก็บเข้าตู้เซฟ คนร้าย 2 คนช่วยกันหยิบเงินสดใส่กระเป๋าเป้สีเขียวอ่อนที่เตรียมมาอย่างเร่งรีบ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท โดยที่เจ้าหน้าที่ธนาคารทั้ง 2 คนไม่กล้าขัดขืน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บ
ขณะเดียวกันคนร้ายที่สวมหมวกกันน็อกก็ได้ถือปืนพกยืนคุมเชิงอยู่ตรงประตู
พร้อมตะโกนเป็นสำเนียงเหน่อๆแบบบ้านลาด ไม่ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารที่นั่งบริการอยู่ตรงเคาน์เตอร์และลูกค้า รวมทั้งนายพีรพงศ์ ผู้จัดการที่นั่งอยู่ในห้องทำงานให้อยู่เฉยๆ หลังก่อเหตุคนร้ายวิ่ง ไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไปทางสี่แยกบ้านลาดไปทาง ต.ตำหรุ ก่อนมุ่งหน้าไป อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นเขตติดต่อกัน หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ วิทยุสกัดจับ แต่ไม่พบร่องรอยของคนร้าย