หลังจากพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด คุมตัวแก๊งอดีตตำรวจ ตชด.นอกรีต 8 นาย นำโดย ร.ต.อ.ณัฎฐ์ ชลนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด 426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ ตชด.41 จ.ชุมพร พร้อมพลเรือนชาย 1 คนและหญิงอีก 3 คน ที่ถูกดำเนินคดี ฐานร่วมกันอุ้มนางเพียงจิต พึ่งอ้น อายุ 42 ปี นักธุรกิจหญิงค้ากางเกงยีนพร้อมบุตรชาย 2 คน ไปกักขังเรียกค่าไถ่ 8 ล้านบาท ฝากขังศาลส่งเข้าเรือนจำพิเศษธนบุรีไปแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ ตำรวจยังคงติดตามจับกุมตัวลูกน้องของ ร.ต.อ.ณัฎฐ์ ที่ถูกออกหมายจับอีก 7 คน เป็น ตชด.5 นาย และพลเรือนอีก 2 คน ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เสียหายออกมาเปิดตัวกล่าวหาว่าถูกกลุ่มตำรวจชุดนี้อุ้มไปยัดยาบ้ารีดไถอีกหลายราย
ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 ม.ค.
นางเพียงจิต พึ่งอ้น พร้อมบุตรชาย 1 คน เหยื่อที่ถูกแก๊ง ตชด.ลักพาตัว เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงเดินทางกลับ โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 15.30 น.
ร.ต.ท.ประภาส หยงสตาร์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นำตัวนายภิญโญ ศิลาวิลาศภักดิ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 1 ต.เขาย้อย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เข้าพบ พ.ต.ท.พูลศักดิ์ สุวรรณจินดา รอง ผกก. สส.สน.บางพลัด และ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 เพื่อสอบปากคำ หลังจากเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเมื่อช่วงสายวันเดียวกัน นายภิญโญตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ เนื่องจากถูกระบุว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไป
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันมีนายวีรพงษ์ อธิโมกข์ อายุ 38 ปี ผู้เสียหายอีกราย อาชีพทำเครื่องประดับ เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน
อ้างว่าถูกผู้ต้องหากลุ่มเดียวกันนี้อุ้มตัวไปควบคุมไว้ที่อารีย์สัมพันธ์เรสซิเด้นท์ สถานที่เดียวกับที่นางเพียงจิตและบุตรชายถูกคุมตัว แต่ถูกแยกไว้คนละห้อง ขณะถูกคุมตัวไว้ยังถูกกลุ่มผู้ต้องหาทำร้ายใช้ไฟฟ้าช็อตอวัยวะเพศ ข่มขู่เอาต่างหูเพชร และเงินสดมูลค่ารวมกว่า 6 หมื่นบาท ก่อนจะปล่อยตัวออกมา
ด้าน ร.ต.ท.ประภาสกล่าวว่า
จากการสอบปากคำนายภิญโญ เบื้องต้นให้การอ้างว่าถูกผู้ต้องหาที่เป็น ตชด. ยัดยาบ้า แล้วทำร้ายร่างกาย ใช้ไฟฟ้าช็อตอวัยวะเพศ และใช้ส้อมจิ้มตามท่อนขา บังคับให้บอกเลขบัญชีเงินฝากพร้อมรหัสเอทีเอ็ม โดยไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไร และยังขู่บังคับห้ามเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ได้ควบคุมตัวนายภิญโญไว้ที่ห้องควบคุม สน.บางพลัด วันพรุ่งนี้จะคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ หากให้การเป็นประโยชน์ แก่ทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมากอาจจะกันตัวไว้เป็นพยาน
ร.ต.ท.ประภาสกล่าวด้วยว่า
วันเดียวกันนี้มีผู้ เสียหายติดต่อขอเข้าแจ้งความ 4 ราย เป็นผู้เสียหายที่อยู่ที่อำเภอเมือง จ.ชุมพร อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี อ.นิคมพัฒนา จ.ชลบุรี และผู้เสียหายชาว จ.ลำพูน แต่ อาศัยอยู่ในภาคใต้ โดยตนแนะนำให้ทั้ง 4 เข้าแจ้งความตามสถานีตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ส่วนที่ สน.บางพลัด มีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่ม 1 ราย และในวันนี้ได้รับการ ติดต่อจากผู้ต้องหาอีก 1 ราย คาดว่าน่าจะเป็น น.ส.อัญชลี คชวงษ์ ที่กลุ่มผู้ต้องหาโอนเงินที่ได้จากผู้เสียหายเข้าไปในบัญชี
พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 เปิดเผยว่า
สำหรับนายภิญโญเป็นผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนออกหมายจับไว้ว่ามีส่วนเกี่ยวพันเป็นเจ้าของบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินให้ และมีการกดเงินออก 3-4 ครั้ง โดยมีเงินที่โอนเข้าไปประมาณ 5 ล้านบาท จากการสอบสวนเบื้องต้นนายภิญโญให้การว่าถูก ร.ต.อ.ณัฎฐ์จับตัวไปรีดไถเช่นกัน มีการบังคับให้ใช้บัญชีรับโอนเงิน โดยขู่ว่าห้ามปิดบัญชี ห้ามเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ทุกครั้งที่โอนเงินเข้ามา ร.ต.อ.ณัฎฐ์จะส่งคนไปประกบขณะกดเงินออกมาทุกครั้ง ผู้ต้องหายอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้เพียงคดีเดียว เพราะเพิ่งรู้จักกับ ร.ต.อ.ณัฎฐ์ได้ไม่นาน สำหรับรายละเอียด ปลีกย่อยคงต้องรอในส่วนของการสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง ช่วงนี้คงยังไม่ให้ประกันตัว ในส่วนของ น.ส.อัญชลี คชวงษ์ ผู้ต้องหาอีกคน ตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามามอบตัว สำหรับผู้ต้องหาที่เป็น ตชด.อีก 5 นาย ตอนนี้ได้แบ่งชุดออกไปทำงานเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้
ด้านนายประดิษฐ์ และนางวันเพ็ญ คงมาก ชาว อ.รัษฎา จ.ตรัง ที่ออกมาแฉพฤติการณ์ของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ กับลูกน้อง อดีตตำรวจ ตชด. อ้างว่าอุ้มไป ทรมานยัดยาบ้าแล้วรีดเอาทรัพย์
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน 2 สามีภรรยาพร้อมด้วยนายชัยพร ชูเสน ทนายความ เดินทาง ไปยัง กก.ตชด.ที่ 42 อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดู ที่เกิดเหตุ โดยยื่นหนังสือขออนุญาตผ่าน พ.ต.อ.สมเกียรติ เนื้อทอง ผกก.กก.ตชด.42 และได้รับอนุญาตให้เข้าไปดู ห้องเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายระบุว่า สภาพห้องยังเหมือนเดิม เพียงแต่มีการทำความสะอาดให้ดูดีขึ้นเท่านั้น
พ.ต.อ.สมเกียรติกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
หลังจากมี การร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนได้ตั้งกรรมการ สอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น และย้าย ร.ต.อ.ณัฏฐ์ พร้อมด้วย ลูกน้อง ไปช่วยราชการที่อื่น เพราะเกรงจะมีการข่มขู่ผู้ เสียหาย และพยาน ก่อนที่ ร.ต.อ.ณัฏฐ์จะถูกจับ หลังจากไปก่อเหตุที่ กทม.เรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการดำเนินการ ตามขั้นตอนแล้ว เรื่องนี้คิดว่าเป็นเรื่องของบุคคล เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นทำให้องค์กรเสียหายไปด้วย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรไว้เวรกรรมย่อมตามทัน
ต่อมา เมื่อเวลา 16.30 น. นายประดิษฐ์ และนาง วันเพ็ญ เข้าพบ พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผบก.ภ.จ.ตรัง เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะลูกน้องเก่าของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ที่ร่วมลงมือทำร้ายและยัดยาบ้าให้นั้น ยังไม่ ถูกจับกุม เกรงว่าจะย้อนกลับมาทำร้าย ซึ่งทาง พล.ต.ต. ประเสริฐได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิรัช อ่วมอารีย์ ผกก.สภ.รัษฎา ส่งกำลังไปดูแลความปลอดภัยให้ 2 สามีภรรยาแล้ว
เมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางจำเรือง เจือกโว้น อายุ 48 ปี ที่บ้านเลขที่ 34/14 ซอย 6 ถนนน้ำผุด เขตเทศบาลนครตรัง พี่สาวนางวรรณี เล้นสิ้น อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดียาบ้าที่ถูกชุดทำงานของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์จับกุมตัว เมื่อเย็นวันที่ 18 พ.ย. 50 โดยทาง ญาติระบุว่า นางวรรณีถูกยัดยาบ้า ทั้งนี้ นางจำเรืองอ้างว่า ในวันดังกล่าว ขณะที่นางวรรณีที่มีอาชีพขายข้าวต้มมัด พร้อมด้วยบุตรสาว ด.ญ.พรพิมล รักสุขสวัสดิ์ อายุ 14 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อถั่วในตลาดท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ถูกชายฉกรรจ์ราว 7 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ บังคับให้ขึ้นรถนำตัวไปค้นที่บ้านเลขที่ 110 ม.4 ต.ทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี อ้างว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ จากนั้น ยังพานางวรรณีและบุตรหายตัวไป กระทั่งญาติ ออกตามหาและแจ้งความ ต่อมา ในตอนเย็นของวันที่ 19 พ.ย. ตำรวจชุดดังกล่าวนำตัวนางวรรณีส่งดำเนินคดีใน ข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย ในบันทึกการจับกุมระบุว่า มีของกลางเป็นยาบ้า 201 เม็ด แต่จับยึดได้แค่ 10 เม็ด ส่วนที่เหลือสามีของน้องสาวคือนายสวาส รักสุขสวัสดิ์ อายุ 48 ปี นำหลบหนีไปได้ ในบันทึก การจับกุมระบุด้วยว่า หัวหน้าชุดจับกุมคือ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ สำหรับคดีของนางวรรณีทางอัยการส่งฟ้องศาลแล้ว ขณะนี้น้องสาวตนอยู่ในเรือนจำ
นางจำเรืองอ้างด้วยว่า
จากการสอบถามนางวรรณี ได้ความว่า หลังจากถูกจับตัวไป ชุดจับกุมบังคับให้รับ สารภาพ ไม่เช่นนั้นจะขืนใจ ด.ญ.พรพิมล ระหว่างนั้นยัง ตบหน้าน้องสาวหลายครั้ง สุดท้ายจำต้องยอมรับสารภาพและยังถูกบังคับให้ไปกดเงินอีก 1 แสนกว่าบาทอีกด้วย นางวรรณีไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องยาบ้ามาก่อน แต่ กลับถูกจับยัดข้อหาดังกล่าว
วันเดียวกัน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ตร. กล่าวว่า
ทราบว่ามีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของกลุ่มอดีตตำรวจ ตชด.กลุ่มนี้หลายรายเข้าร้อง เรียนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้นำข้อมูลเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. รับทราบ และ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน บช.น. ขยายผลว่า มีคดีใด ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอดีตตำรวจดังกล่าวอีกหรือไม่ หรือมีตำรวจคนอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องอีกไหม ผบ.ตร.กำชับให้ ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา อย่าให้มีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด รวมทั้งให้พิจารณาความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาในระดับใกล้ชิด ขอให้ประชาชนเชื่อใจตำรวจว่าจะไม่มีการปกป้องช่วยเหลือตำรวจ ผบ.ตร.จะลงมาดูแลด้วยตัวเอง เรื่องนี้ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำคัญของ ตำรวจ ผู้บังคับบัญชาตำรวจทุกคนต้องดูแลแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ด้านนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้เสียหายที่ร้องเรียนว่าถูกกลุ่มตำรวจนอกรีตยัดยาบ้าว่า ถ้าหากผู้ร้องมีพยานหลักฐานว่าถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมและคดียังไม่ถึงที่สุด สามารถร้องขอความช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษาด้านกฎหมายได้ ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ก่อนที่กรมคุ้มครองฯ จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแจ้งไปยังศาล อัยการ หรือพนักงานสอบสวนแล้วแต่คดีอยู่ในขั้นตอนใด เพื่อให้ผู้รับผิดชอบพิจารณา ส่วนกรณีคดีศาลตัดสินถึงที่สุดให้จำคุก หากจำเลยมีพยานหลักฐานใหม่ที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลขอพิจารณาคดีใหม่ ตาม พ.ร.บ.รื้อฟื้นคดีใหม่ เพื่อขอให้ศาลเปิดการไต่สวนพิจารณาพยานหลักฐานใหม่อีกครั้ง
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า
หากมีการพิจารณาคดีใหม่แล้วศาลตัดสินว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์และถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 ประกอบด้วยค่าทดแทนระหว่างถูกคุมขังวันละ 200 บาท และค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้วันละ 200 บาท นอกจากนี้ ระหว่างการพิจารณาคดีหากมีการข่มขู่พยาน ผู้เสียหายมีสิทธิขอคุ้มครองพยานได้ที่สำนักคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิฯจะจัดส่งชุด คุ้มครองพยานหรือประสานตำรวจดูแลโดยออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด มาตรการทั้งหมดกรมคุ้มครองสิทธิฯจะดำเนิน การเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพให้ประชาชนทุกคน
เย็นวันเดียวกันพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดตลิ่งชัน ออกหมายจับ น.ส.จูนจิรา คล้ายสุบรรณ อายุ 28 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 5/1 หมู่ 5 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ภรรยานายภิญโญ เนื่องจากสอบปากคำแล้ว น.ส.จูนจิรายอมรับว่า เคยไปกับนายภิญโญ กดเงินของเหยื่อค่าไถ่ ประกอบกับผู้เสียหายระบุว่าเห็น น.ส.จูนจิราปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ต้องหา เข้าข่ายมีส่วนเกี่ยว ข้องกับแก๊ง ตชด. ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติตามคำขอ พนักงาน สอบสวนจึงแจ้งข้อหาให้ทราบควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี นับเป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ในแก๊งอุ้มรีดค่าไถ่ที่ถูกจับกุมตัว