จับยกแก๊งสังหารโหดหนุ่มรามฯ นังมายา นกต่อต้นตอมรณะ!

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤษภาคม 2549 17:59 น.

ตำรวจตามจับยกแก๊ง มือสังหารตัดคอหนุ่มนักศึกษารามฯ รวม 5 คน ที่แท้หญิงสาวนางนกต่อ แฟนสาวหัวหน้าแก๊งหลอกล่อพาผู้ตายไปพบจุดจบ ด้านพ่อผู้ตาย ระบุเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งเสียตัวเองจนเกือบจะจบปริญญา แต่ต้องมาพบจุดจบสยองก่อน

ความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายก่อเหตุสังหารโหด นายพิทักษ์ งิ้วลาย อายุ 29 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง และพนักงานบริษัท จีอี แคปปิตอล จำกัด ฝ่ายตรวจสอบสินเชื่อรถจักรยานยนต์ จนคอหวิดขาดเหตุเกิดเมื่อเวลา 05.00 น.วานนี้ (10 พ.ค.) นั้น วันนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา พ.ต.ท.รณยุทธ กิตติเวชานนท์ สว.สส.พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในซอยแสงจันทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตยานนาวา กทม. จึงนำกำลังไปยังบ้านหลังดังกล่าว และพบวัยรุ่น 4 คนท่าทีมีพิรุธ ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวไว้ จากนั้นตรวจค้นภายในบ้านพบโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่นเอ็น 70 ซึ่งเป็นของผู้ตาย อาวุธมีดพับ มีดดาบเปื้อนคราบเลือดจำนวนหลายเล่ม รองเท้าผ้าใบสีขาวเปื้อนเลือด เสื้อสีดำ และกางเกงยีนส์เปื้อนเลือด จึงคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางมาสอบสวนที่โรงพัก

ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายนรินทร์ โพธิ์พูน อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 5 ต.ทับน้ำ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา นายชนะ บุญทีฆ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 7 ต.บางคนที อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม นายดนัย พงศ์ฉวี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 809/64 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. และ น.ส.ผกามาศ ตู้มณี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 2 ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดพร้อมเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งนั่งดื่มกินกันในบ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่งเวลาดึก ผู้ตายซึ่งเคยรู้จักกับ น.ส.ผกามาศ มาก่อนได้โทรศัพท์เข้ามา และชวน น.ส.ผกามาศ ออกไปดื่มกินนอกบ้าน โดยขณะนั้น นายนรินทร์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.ผกามาศ ทราบเรื่อง อีกทั้งรู้ระแคะระคายมาก่อนหน้านี้ว่า น.ส.ผกามาศ ยังคงแอบคบหากับผู้ตายอยู่ จึงได้ยื่นคำขาดให้ น.ส.ผกามาศ ว่าจะเลือกใคร ซึ่งในที่สุด น.ส.ผกามาศ ตอบกลับว่าจะเลือกนายนรินทร์ ทางนายนรินทร์จึงวางแผนและออกอุบายให้ น.ส.ผกามาศ นัดให้ผู้ตายไปหาที่ร้านปิ๊งชมพูคาราโอเกะ ย่านถนนจันทร์ จากนั้นทั้งคู่ได้นั่งดื่มกินกันจนกระทั่งจวนเวลาใกล้ร้านปิด น.ส.ผกามาศ จึงโทรศัพท์นัดให้กลุ่มนายนรินทร์เตรียมตัว และเมื่อร้านปิด น.ส.ผกามาศ ออกอุบายให้ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีเขียวดำ ทะเบียน ยทฉ-359 กทม.ไปส่งที่บ้าน และเมื่อผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบกับกลุ่มนายนรินทร์ที่ดักรออยู่ จากนั้นกลุ่มนายนรินทร์ก็ร่วมกันกินโต๊ะ รุมแทง รุมฟันจนผู้ตายเสียชีวิตคาที่ แล้วขโมยทรัพย์สินของผู้ตายทั้งโทรศัพท์และรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จนกระทั่งมาถูกจับกุม

นอกจากนี้ ทั้งหมดยังยอมรับด้วยว่า มีผู้ร่วมสังหารผู้ตายอีกคนชื่อ นายสมชาย พวงพิกุล อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 ถนนเจริญกรุง 67 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม.ซึ่งตำรวจตามจับกุมตัวได้ที่โรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ ขณะนายสมชายไปเยี่ยมญาติ

ต่อมาตำรวจคุมตัวนายดนัย หนึ่งในผู้ต้องหาไปนำรถจักรยานยนต์ของกลางของผู้ตาย ที่นำไปซ่อนในซอยดอนกุศล 3 กลับคืนมาได้ พร้อมทั้งหมายเลขทะเบียนที่กลุ่มผูต้องหานำไปซ่อนอีกจุดหนึ่งในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยอยู่ดี 5/17 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. และมีดสปาต้าอีก 2 เล่มได้ครบ

ขณะเดียวกัน ที่ สน.ยานนาวา นายประสาท งิ้วลาย อายุ 58 ปี พ่อผู้ตาย และนางสายทอง แสงไชยา อายุ 45 ปี มารดาผู้ตาย พร้อมญาติและเพื่อนผู้ตายกว่า 20 คน ได้มารอกลุ่มผู้ต้องหาที่ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ที่หน้าห้องสืบสวนตั้งแต่เช้า โดยทันทีที่ตำรวจพานายดนัยนำจักรยานยนต์ของผู้ตายกลับมาได้ นางสายทอง มารดาผู้ตายได้โผเข้าไปกอดรถร้องไห้อย่างน่าเวทนา อีกทั้งระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายดนัยกลับมาโรงพักนั้น ญาติและเพื่อนผู้ตายได้กรูกันเข้าไปหวังรุมประชาทัณฑ์ ทำให้ตำรวจฝ่ายสืบสวนต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อกันไม่ให้นายดนัยถูกประชาทัณฑ์ แต่ก็มีบางหมัดเล็ดลอดเข้าไปได้ ส่งผลให้นายดนัยเจ็บตัวเล็กน้อย

ด้าน นายประสาท บิดาผู้ตาย กล่าวว่า บุตรชายยังเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ชั้นปีที่ 4 ซึ่งเหลืออีกเพียงไม่กี่วิชาก็จะสำเร็จปริญญา และตลอดเวลาที่บุตรชายเรียนอยู่นั้น บุตรชายเป็นผูหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนหนังสือ โดยเคยทำงานเป็นเซลส์ขายรถ และย้ายบริษัทเปลี่ยนไปเรื่อย จนสุดท้ายเข้าเป็นพนักงานของบริษัท จีอี แคปปิตอล จำกัด ฝ่ายตรวจสอบสินเชื่อรถจักรยานยนต์

ลูกผมเป็นลูกชายคนโต คอยหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด เนื่องจากผมเองไม่มีรายได้อะไร ก่อนตายลูกชายบอกว่าจะซื้อบ้านให้ และจะเป็นคนผ่อนเอง โดยได้ไปพูดคุบกับอาเขาให้ช่วยหาบ้านให้ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุราว 6 โมงเย็น หลังจากลูกชายกลับมาจากงาน ซึ่งปกติจะกลับบ้านตรงเวลาไม่เคยเกิน 3 ทุ่ม ได้อาบน้ำนั่งกินข้าวด้วยกันทั้งครอบครัว จนกระทั่ง 2 ทุ่ม ลูกชายบอกว่าจะออกจากบ้านไปหาเพื่อนชื่อยอด และหายไปตลอดทั้งคืน จนกระทั่ง 7 โมงเช้า ตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบว่าลูกชายถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว นายประสาท กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

เบื้องต้น ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และฆ่าผู้อื่น จากนั้นคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไว้สอบสวนขยายผลต่อไป