เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 ม.ค.
พ.ต.ท.สมคิด ชีวะพลาบูรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายชิงทรัพย์และแทงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ในซอยตลาดนัดเสาไฟฟ้าแรงสูง ติดกับซอยสุขสวัสดิ์ 78 หมู่ 7 ต.บางจาก จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภวัต พรหมมะกฤต รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ณฐพล แสวงกิจ ผกก.สภ. พระประแดง พ.ต.ท.วิจิตร ชะเอม รอง ผกก.สส. พ.ต.ต. ยุทธนา สังข์ทอง สวป. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณท้ายซอยห่างจากถนนสุขสวัสดิ์ประมาณ 700 เมตร
พบชาวบ้านยืนมุงดูเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้ ถุงก๋วยเตี๋ยวและถุงใส่ผักยอดแคกระเด็นไปคนละทิศละทาง นอกจากนี้ ยังพบกองเลือดไหลนองพื้น ส่วนผู้บาดเจ็บทราบจากชาวบ้านว่ามีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 3 ไปแล้ว และเสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อต่อมาคือนายหนิ ดวงแก้ว อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/53 หมู่ 7 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีบาดแผลถูกแทงที่ใต้ราวนมซ้าย 1 แผล ใต้ ราวนมขวา 1 แผล กลางอก 1 แผล และกลางหลังอีก 1 แผล
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า
นายหนิ ผู้ตาย มีอาชีพขับรถรับส่งคนงานบริษัทจิตรภูมิ จำกัด เป็นโรงงานผลิตด้ายทอผ้า ตั้งอยู่ใน จ.สมุทรปราการ ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายเดินมาจากปากซอยเข้าบ้านที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ระหว่างเดินมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20-30 ปี สวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนสีเข้ม สวมหมวกนิรภัยสีเขียวเต็มใบแบบผู้หญิง ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดขวางหน้าผู้ตาย จากนั้นตรงเข้าไปกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท ที่ผู้ตายสวมอยู่ แต่นายหนิขัดขืนต่อสู้ ถูกคนร้ายใช้มีดกระหน่ำแทงไม่ยั้ง ก่อนชิงสร้อยคอขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนสุขสวัสดิ์
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนางบรรจง สุระแคว้น อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การเพิ่มเติมว่า
ก่อนเกิดเหตุนายหนินำรถที่โรงงานไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่ง แต่รถยังซ่อมไม่เสร็จจึงเดินทางกลับเข้ามาบ้านที่อยู่ในซอยดังกล่าว พร้อมกับซื้อก๋วยเตี๋ยวมากินมื้อเที่ยงที่บ้านด้วย ซึ่งผู้ตายมักปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำ แต่ยังเดินไม่ถึงบ้านก็มาถูกคนร้ายชิงทรัพย์และฆ่าตายเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ถูกคนร้ายกระชากสร้อยคอ ผู้ตายได้เอามือกำพระหลวงพ่อมุ้ยเลี่ยมทองไว้แน่น ทำให้คนร้ายเอาไปไม่ได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจประมวลจากปากคำพยานในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า
คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายมาอย่างดี รู้ว่านายหนิมักสวมสร้อยทองเส้นใหญ่และเวลาใกล้เที่ยงก็จะเดินกลับไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านในซอยดังกล่าว จึงขี่รถจักรยานยนต์มาดักรอ ก่อนลงมือชิงทรัพย์ แต่เหยื่อขัดขืนต่อสู้เลยใช้มีดที่เตรียมมากระหน่ำแทงจนเสียชีวิต