กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลบุกรวบแก๊งตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) นอกรีต พาลูกน้องอุ้มรีด 3 แม่ลูกเรียกค่าไถ่ 8 ล้านบาท โดยนำเหยื่อตัวประกันไปขังไว้ ในเซฟเฮาส์ อาคารอารีย์เรสซิเดนท์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 12 คน เป็น ตชด. 8 คน หัวโจกคือ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ อายุ 28 ปี ผบ.หมวด 426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ ตชด.41 จ.ชุมพร นรต.รุ่น 55 นอกจากนี้ ยังมีลูกน้อง ตชด.ร่วมแก๊งที่หลบหนีอีก 5 คน ซึ่งหลังก่อเรื่องฉาวเสื่อมเสียสะท้านวงการสีกากี ทั้งหมดถูกเฉดหัวให้ออกจากราชการไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 26 ม.ค. เมื่อเวลา 10.00 น.
ร.ต.ท.พิรุณ ถวัลย์ธัญญา พนักงานสอบสวน สน.บางพลัด ได้ควบคุมตัวแก๊งตำรวจนักอุ้มรีดค่าไถ่ไปยื่นคำร้องฝากขัง ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน โดยกล่าวหาว่าปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน ร่วมกันบุกรุกในเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้เกิดความกลัวว่าจะได้รับอันตรายต่อร่างกายหรือเสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยมีอาวุธ โดยกระทำผิดตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ซ่องโจรและเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เอาเด็กอายุ 15 ปี เอาเด็กกว่าสิบห้าปีไปโดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร เนื่องจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาครบ 48 ชั่วโมง แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รอผลการตรวจลายนิ้วมือและประวัติผู้ต้องหา รอผลตรวจของกลาง จึงขอฝากขังมีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-6 ก.พ.นี้
พร้อมกันนี้ ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพฤติการณ์กระทำความผิดมีลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำเป็นระบบ
เป็นภัยร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม หากปล่อยตัวออกไปอาจคุกคาม ข่มขู่ผู้เสียหาย และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งความผิดแห่งคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณา คำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ จากนั้นส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษธนบุรีทันที ขณะเดียวกัน ได้อนุมัติหมายจับกุมผู้ต้องหาตามที่พนักงานสอบสวนเสนอเพิ่มอีก 7 คน ประกอบด้วย ส.ต.ต.ธีระศักดิ์ กล่ำตะโก จ.ส.ต.อนุชิต พรหมอุบล ด.ต.ประสาร สอนทวี จ.ส.ต.อนุสิทธิ์ เนตรสุวรรณ และ จ.ส.ต.วิโรจน์ สีขาว ทั้งหมดเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ส่วนอีก 2 คน เป็นพลเรือนคือ นายภิญโญ ศิลาวิลาศภักดิ์ อายุ 33 ปี และ น.ส.อัญชลี คชวงษ์ อายุ 29 ปี เจ้าของบัญชีธนาคารที่คนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชี
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน น.ส.ชื่นกมล แก้วสุข อายุ 30 ปี พร้อมนายมาโนช แก้วสุข อายุ 35 ปี พี่ชาย เดินทางไปขอดูตัวกลุ่มผู้ต้องหาแก๊ง ตชด.นอกรีต
เนื่องจากครอบครัวตกเป็นเหยื่ออาญาเถื่อนของผู้ต้องหาแก๊งนี้เช่นกัน จากนั้นเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. ประภาส หยงสตาร์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางพลัด ว่าเมื่อเช้าวันที่ 10 ส.ค. 50 กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปที่บ้านแม่ คือนางประยูร แก้วสุข สอบถามหาตัวนายวินัย แก้วสุข พี่ชาย อ้างว่าเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดจะขอเข้าตรวจค้นบ้าน แต่ไม่พบตัวพี่ชาย เพราะแม่อยู่บ้านคนเดียว เมื่อแม่ขอดูหมายค้นของศาล แต่ไม่มี จึงไม่ให้ เข้าตรวจค้น ทำให้ถูกกลุ่ม ร.ต.อ.ณัฏฐ์ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ
ส่วนพี่ชายซึ่งขับรถกระบะ ทะเบียน ขย 828 ชลบุรี เร่ขายลำไยกับลูกชาย 3 ขวบ ใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ถูกกลุ่ม ร.ต.อ.ณัฏฐ์ตามไปจับกุม พร้อมยัดยาบ้าจำนวน 200 เม็ด เสร็จแล้วนำตัวไปกักขังที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ซ้อมบังคับให้รับสารภาพจนสะบักสะบอม ต้องหามส่งรพ.ตำรวจ ต่อมาวันที่ 12 ส.ค. ตนเดินทางไปเยี่ยมพี่ชาย พบว่ามีอาการสาหัส ใบหน้าฟกช้ำบวมปูด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนหน้าห้องคนไข้ เห็น ร.ต.อ.ณัฏฐ์ยืนดูอยู่ ภายหลังเกิดเหตุทางครอบครัวแปลกใจมากที่พี่ชายถูกดำเนินคดี เพราะเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ไม่เคยข้องแวะกับยาเสพติด เมื่อออกจาก รพ. พี่ชายถูกส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลางคลองเปรม ส่วนรถถูกนำไปเก็บไว้ที่ บช.ปส. ที่ผ่านมาเคยเข้าร้องเรียนผ่านรายการร่วมมือร่วมใจ ทางทีไอทีวี แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า เมื่อทราบข่าวกลุ่ม ร.ต.อ.ณัฏฐ์ถูกจับกุม จึงมาแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่ม ร.ต.อ.ณัฏฐ์กับพวก ฐานทำร้ายร่างกายและบุกรุกเคหสถาน
นอกจากนี้ มีเหยื่อผู้เสียหายที่ถูกแก๊ง ตชด. อุ้มรีดเงินออกมาเปิดโปงพฤติกรรมชั่วของผู้ต้องหาแก๊งนี้เพิ่มเติม
โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานทนายความนายชัยพร ชูเสน ถนนรัษฎา เขตเทศบาลนครตรัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยพร ชูเสน ได้นำนายประดิษฐ์ คงมาก อายุ 43 ปี และนางวันเพ็ญ คงมาก อายุ 41 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้านคาราโอเกะ ออกมาแถลงแฉพฤติการณ์แก๊ง ร.ต.อ.ตชด. โดยนางวันเพ็ญ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 50 ประมาณบ่าย 2 โมง ขณะที่ตนและสามีขับรถยนต์จะไปร่วมงานศพ ระหว่างทางแวะจอดเติมน้ำมันรถที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ตลาดคลองปาง ได้มีรถกระบะ 2 คัน ขับมาจอดปิดหน้าปิดท้าย
จากนั้นมีชายฉกรรจ์ 4 คน ลงจากรถมาลากตัวสามีขึ้นไปนั่งรถกระบะ ส่วนตนถูกชายฉกรรจ์ 2 คน ลากขึ้นรถกระบะอีกคัน
นำตัวไปที่ค่ายตำรวจตระเวนชายแดน 42 จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างนั่งอยู่ในรถ ถูกขู่บังคับเอาเงินที่พกติดตัวมาจำนวน 36,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น เมื่อไปถึงตนและสามีถูกกลุ่มตำรวจ จำได้แม่นยำว่าหัวหน้าชุดคนสั่งการคือ ร.ต.อ.ณัฎฐ์ ซึ่งขณะนั้นประจำอยู่ที่ค่ายตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 จังหวัดนครศรีธรรมราช จับทรมานจี้ด้วยช้อนส้อมต่อเชื่อมกับสายไฟฟ้า บังคับให้รับสารภาพว่ามียาบ้าไว้ในความครอบครอง จนมีบาดแผลตามตัวหลายแห่ง
เหยื่อแก๊งอาญาเถื่อนกล่าวต่อว่า
ภายหลังจากถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายตำรวจตระเวนชายแดน 42 เป็นเวลา 1 คืน ก็ถูกนำตัวไปตรวจค้นบ้าน โดยไม่มีการขอหมายศาล แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ ขณะที่ชุดตรวจค้นได้หยิบฉวยเงินเหรียญจำนวน 1,800 บาท ติดมือไปอีกด้วย เสร็จแล้วจะควบคุมตัวไป สภ.รัษฎา ระหว่างทางพยายามเรียกเงินจำนวน 2 แสนบาท เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหามียาบ้าไว้ในความครอบครอง แต่ตนไม่มีเงินให้ จึงถูกยัดยาบ้าจำนวน 10 เม็ด แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต้องหาเงินประกันตัว ออกมาต่อสู้หาความยุติธรรมอยู่ทุกวันนี้ พร้อมกับทำหนังสือร้องเรียนไปยังดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ได้เข้าแจ้งความตำรวจกองปราบปราม เพราะไม่กล้าเข้าแจ้งกับตำรวจท้องที่ จ.ตรัง เพราะไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย และไม่เชื่อใจตำรวจพื้นที่
ขณะที่นายชัยพร ชูเสน ทนายความกล่าวถึงการนำสองสามีภรรยาผู้เสียหายมาเปิดโปงพฤติกรรมยัดเยียดข้อหาผู้บริสุทธิ์ในวันนี้ ว่า
เนื่องจากต้องการเรียกร้องให้ ดำเนินคดีกับตำรวจนอกรีตพวกนี้อย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมา ได้เข้าร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความเป็นธรรม แต่ไม่มีความคืบหน้า และเมื่อตำรวจแก๊งนี้ถูกจับกุม ผู้เสียหายก็จะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายด้วย
ด้าน พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.น.7 กล่าวถึงการติดตามล่าตัวผู้ต้องหาตำรวจผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีว่า
ได้ส่งกำลังชุดสืบสวนออกติดตามตัวอย่างกระชั้นชิดแล้ว พร้อมทั้งประสานผู้บังคับบัญชาให้พาเข้ามอบตัวอีกทางหนึ่งด้วย คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ โดยผู้ต้องหาไม่คิดต่อสู้
ทางด้าน พ.ต.อ.สิงหนาท สีกาแก้ว ผกก.ตชด.ที่ 41 จ.ชุมพร ผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา กล่าวว่า
เพิ่งเข้าไปดูแลการปราบปรามยาเสพติดของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.) ตชด.ที่ 41 ตั้งแต่เดือน ต.ค.50 ไม่เคยทราบมาก่อนว่าชุด ศตส.ชุดนี้ จะมีพฤติกรรมที่เลวโดยสันดานเช่นนี้ หากทราบคงจัดการไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้ทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงตำรวจแบบนี้อย่างแน่นอน แต่ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจ ตชด. ทั้ง 13 นาย คงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และไม่รู้สึกกังวลใจ หรือวิตกใดๆ กับเรื่องดังกล่าว หากผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งให้ปฏิบัติอย่างไร ก็พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่ง เนื่องจากทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday