เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา
พ.ต.อ. ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.3 พ.ต.อ.นิติพันธุ์ โรหิโตปการ ผกก.ศสส.ภ.3 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนางปราณี หรือแต๋น คลังผา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 7 ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด เงินสด 55,160 บาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก 8 เล่ม มียอดเงินหมุนเวียนนับล้านบาท รถยนต์โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน กจ 2964 ลพบุรี
พ.ต.อ.ภาณุกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจชุดสืบสวนภาค 3 ได้จับกุมเครือข่ายค้ายาบ้าในเขต จ.นครราชสีมา หลายราย จากการสอบขยายผลจนทราบว่าแก๊งยาบ้ารายใหญ่ที่นำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าคือนางปราณี
มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.ลพบุรี จึงระดมกำลังออกสืบสวนจนทราบแน่ชัดว่าชื่อนางปราณี หรือ ส.จ.แต๋น คลังผา เป็นสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) ลพบุรี เขตอำเภอโคกสำโรง เลยวางแผนให้สายติดต่อล่อซื้อทางโทรศัพท์ จำนวน 200 เม็ด เป็นเงิน 40,000 บาท ปรากฏว่านางปราณีหลงกลนำ ยาบ้าของกลางส่งให้สายตามที่นัดหมายที่บ้านเลขที่ 900 หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา กระทั่งถูกจับกุมจนมุม
สอบสวนนางปราณียอมรับว่า ลักลอบค้ายาบ้ามานานกว่า 5 ปี จนทำให้มีรายได้มากมาย กระทั่งเปิดกิจการรับเหมาก่อสร้าง ร้านจำหน่ายติดตั้งกล้องวงจรปิดใน จ.ลพบุรี
มีทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาบ้ามากกว่า 10 ล้านบาท ก่อนที่จะเริ่มขยายตลาดส่งยาบ้ามาให้กับลูกค้าใน จ.นครราชสีมา โดยซื้อบ้านหลังที่ถูกจับกุมไว้พักและส่งยาบ้าให้กับลูกค้า ส่วนยาบ้าทั้งหมดรับมาจากกรุงเทพฯนำพักที่ จ.ลพบุรี ก่อนกระจายส่งต่อให้กับลูกค้าใน จ.ลพบุรี และ จ.นครราชสีมา
พ.ต.อ.ภาณุกล่าวอีกว่า สำหรับนางปราณีเป็นเครือข่ายเดียวกับนายณรงค์ฤทธิ์ คลังผา อายุ 36 ปี อดีตนายก อบต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
และเป็นลูกชายนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรีเขต4 พรรคพลังประชาชน โดยนายณรงค์ฤทธิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ลพบุรี ร่วมกับตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 50 ที่ผ่านมา ส่วนนางปราณีมีศักดิ์เป็นหลานสาวนายอำนวย โดยพ่อของนางปราณีเป็นพี่ชายของนายอำนวย
รอง ผบก.ศสส.ภ.3 กล่าวว่า ขบวนการค้ายาบ้ารายนี้เป็นขบวนการใหญ่ลักลอบค้ามานานหลายปี ที่ผ่านมาถูกตำรวจหลายท้องที่ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
แต่ผู้ต้องหาหนีรอดมาได้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้หลงกล ถูกชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ซ้อนแผนจับกุมตัวได้ ส่วนทรัพย์สินต่างๆของนางปราณีซึ่งมีจำนวนหลายรายการมูลค่าร่วม 10 ล้านบาท จะได้อายัดไว้ตรวจสอบที่มาอีกครั้ง และหลังสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีต่อไป