หนุ่มพม่า ฉีกหน้า ฝ่าด่านสุวรรณภูมิ แอบขึ้นเครื่องบิน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวไปที่ สภ.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

หลังจากทราบว่าจับกุมชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองและแอบขึ้นไปบนเครื่องบินที่จอดอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.ธีรเดช ภาณุรักษ์ ผกก.สภ.ราชาเทวะ ยอมรับว่ามีเหตุจริง แต่ผู้บริหารสนามบินขอให้ปิดไว้ก่อน สำหรับข้อหาคือบุกรุกสถานที่ราชการและลักลอบเข้าเมือง 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเมื่อค่ำวันที่ 22 ม.ค.มีชาวพม่า ชื่อนายซุ อ่อง อายุ 27 ปี ใช้วิธีลุยข้ามคลองข้างสนามบินสุวรรณภูมิด้านทิศตะวันตก หลังโรงแรมแกรนด์อินคำ ถนนกิ่งแก้ว-ลาดกระบัง

แล้วปีนรั้วตาข่ายและเดินข้ามรันเวย์มุ่งไปยังลานจอดเครื่องบินหลุมจอดที่ 502 ซึ่งมีเครื่องบินของสายการบินตุรกี แอร์ไลน์ จอดอยู่และยังไม่ได้ถอดบันไดเทียบข้างเครื่องบินออก นายซุ อ่อง จึงขึ้นไปนั่งบนที่นั่งผู้โดยสาร เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดออกเดินทางตอนเที่ยงคืนไปยังตุรกี แต่เวลา 21.30 น. วิศวกรอากาศยานได้มาเช็กสภาพความพร้อมของเครื่องบินและเตรียมนำเครื่องบินไปรอรับผู้โดยสาร แต่เมื่อเปิดประตูตรวจภายในห้องโดยสาร ก็ถึงกับตกใจเพราะพบว่ามีคนนั่งรออยู่ก่อน สอบถามทราบว่า ต้องการลี้ภัยไปประเทศที่ 3 จึงให้หน่วยรักษาความปลอดภัยคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 


ต่อมา พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยรายละเอียดว่า

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายซุ อ่อง ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ทำการบิน หรือแอร์ไซต์ และแอบขึ้นไปบนเครื่องบินของสายการบินตุรกี แอร์ไลน์ หวังเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 โดยปีนรั้วเข้ามาตั้งแต่ช่วงกลางคืน  พล.อ.ท.ชนะกล่าวต่อไปว่า นายซุ อ่อง เห็นเครื่องบินของสายการบินตุรกีจอดอยู่ที่ลานจอดหลุมที่ 502 และยังไม่ได้เก็บบันไดที่เทียบตัวเครื่องบิน เลยขึ้นไปในตัวเครื่องบิน นั่งรอบนที่นั่งหมายเลข 40 JK ต่อมาเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่เตรียมลากเครื่องบินไปประจำที่เพื่อรอรับผู้โดยสาร เนื่องจากมีตารางบินเวลาเที่ยงคืน ขณะเดียวกัน วิศวกรและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องบินขึ้นไปตรวจสภาพความเรียบร้อยก็พบนายซุ อ่อง นั่งอยู่ จึงให้หน่วยรักษาความปลอดภัยนำส่ง สภ.ราชาเทวะ
 


กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทยเปิดเผยอีกว่า

เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอกอาคารผู้โดยสารค่อนข้างหละหลวม ต้องแก้ไขปรับปรุงเข้มงวดตรวจตราพื้นที่และจุดล่อแหลมทั้งในและนอกอาคารผู้โดยสารอย่างละเอียด และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยงต่อการลักลอบเข้าสนามบิน จะต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน
 

“ขณะนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่จาก ทอท. และจากเอกชนภายนอกที่ ทอท.ว่าจ้างเข้ามาดูแล คือ กลุ่มบริษัทล็อกซเลฯแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง ขณะเดียวกันจะต้องทบทวนสัญญารับเหมารักษาความปลอดภัยกับบริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทาน โดยกระตุ้นให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นเพื่อป้องกันเหตุร้าย การพบความบกพร่องครั้งนี้ยังถือว่าโชคดีที่ผู้ก่อเหตุไม่มีพฤติกรรมก่อการร้าย เพียงแต่ต้องการหลบหนีไปยังประเทศที่ 3 เท่านั้น ต่อไปนี้ ทอท.ต้องให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น” พล.อ.ท.ชนะกล่าว


ขณะที่นายจตุรงคพล สดมณี รองผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการ สนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า
 
นายซุ อ่องหลบหนีเข้ามาภายในแอร์ไซต์ฝั่งถนนกิ่งแก้ว แม้ว่าจะติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้เจ้าหน้าที่มองไม่เห็นความเคลื่อนไหวในบริเวณนั้นเลยหลุดรอดเข้ามาได้ จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้นทั้งในส่วนของแสงสว่าง จำนวนคนและความถี่ของเวรยาม ส่วนนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคมกล่าวว่า รู้สึกตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าสนามบินจะหละหลวมขนาดนี้ ทอท.ต้องทบทวนบทบาท และมาตรการความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นทั้งภายในและภายนอกสนามบิน ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น เป็นบทเรียนครั้งสำคัญต้องหาจุดบกพร่อง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์