คานปูนอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นถล่มทับคนงานก่อสร้างดับสยอง ขณะลงไปขุดหลุ่มตอกเสาเข็มกันอาคารทรุดตัว อีกคนคลานหนีออกมาได้หวุดหวิด เผยนาทีระทึก คนตายเห็นพื้นดินเริ่มทรุด รีบตะโกนบอกเพื่อนให้หนีออกมาก่อน แต่ตัวเองหนีตามออกมาไม่ทันถูกคานปูนทับตายคาที่ เทศบาลเมืองรังสิตระบุเป็นการลักลอบต่อเติมอาคาร โดยไม่ขออนุญาต สั่งหยุดการก่อสร้างทันที ตำรวจสอบพบเป็นการแอบรับงานต่อเติมกันเอง โดยไม่มีวิศวกรคอยควบคุม
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ม.ค. พ.ต.ต.วรายุทธ พงษ์ตัน สารวัตรเวร สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี
รับแจ้งเหตุคานปูนอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างต่อเติม ทรุดตัวทับคนงานเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดในซอยคุ้มเกล้า ถนนรังสิต-ปทุมธานี ม.2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาป่อเต็กตึ๊งและเจ้าหน้าที่อาสาปทุมสัมพันธ์
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เป็นโกดังเก็บเหล้าเบียร์ของบริษัท เลิศทรัพย์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เลข ที่ 519/43-45
ด้านหลังอาคารมีการขุดดินใต้อาคารลักษณะเป็นอุโมงค์ลึกลงไปประมาณ 3 เมตร เนื่องจากอาคารดังกล่าวมีการทรุดตัวลง ทางบริษัทจึงว่าจ้างบริษัทวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ใช้แม่แรงไฮโดรลิกดีดและเสริมคานใหม่ โดยใช้คนงานลงไปขุดเจาะด้านล่างตัวอาคารเพื่อนำแม่แรงเข้าไปค้ำคานปูนเอาไว้ ขณะคนงานกำลังทำงานอยู่ ตัวอาคารดังกล่าวได้ทรุดตัวและทับร่างนายสมชาย นุ้ยเย็น อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 8 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เสียชีวิต ส่วนเพื่อนคนงานที่ลงไปด้วยอีก 1 ราย คือนายประวิทย์ กาสูงเนิน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 12 ต.หนองกราด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา รอดชีวิตออกมาได้หวุดหวิด ส่วนนางแสงระวี บุญเจริญ อายุ 27 ปี ภรรยานายสมชาย พอรู้ว่าสามีเสียชีวิตถึงกับเป็นลมล้มพับในห้องพักคนงาน
นายประวิทย์ ให้การว่า ตนพร้อมเพื่อนคนงานทำงานกับบริษัทรับเหมาแก้ไขอาคารทรุด เสริมราก ฐาน ยกระดับอาคาร
โดยผู้ตายคือนายสมชาย เป็นช่างตอกไฮโดรลิก ส่วนตนเองเป็นผู้ช่วยมีหน้าที่คอยหยิบอุปกรณ์ให้ และมีคนงานคนอื่นๆ ทำหน้าที่บังคับปิดเปิดเครื่องอยู่ข้างบน ตนและนายสมชายลงเข้าไปขุดเจาะเพื่อนำดินจากใต้อาคารขึ้นมา เป็นพื้นอุโมงค์ลึก 4-5 เมตร แล้วใช้ไฮโดรลิกดีดพื้นอาคารขึ้นเพื่อนำเสาเข็มเข้าไปตอกเพิ่มเติมจากเสาเข็มเดิม เพื่อไม่ให้พื้นอาคารทรุดตัวลงมาอีก
ตึก4ชั้นทรุด! ทับสยองคนงาน
นายประวิทย์ ให้การต่อว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายสังเกตเห็นว่าพื้นดินเริ่มทรุดตัวลงมา จึงบอกให้ตนเองรีบคลานหนีออกมา
และผู้ตายได้คลานตามมาด้านหลัง สักพักได้ยินเสียงร้องโอ๊ย ตนเองจึงร้องเรียกนายสมชายและคลานเข้าไปดู พบว่าคานปูนใต้อุโมงค์ทรุดลงทับร่างนายสมชายบริเวณหัวและลำตัว เห็นแต่ขาทั้งสอง เสียชีวิตติดอยู่ภายในใต้อุโมงค์ดังกล่าว ตนจึงรีบคลานออกมาเพราะเกรงว่าคานจะหล่นทับอีก เพราะอาคารดังกล่าวมีสภาพเก่าและแปลกใจที่คานเดิมของอาคารไม่มีเหล็กยึดเลย จึงรีบคลานออกมาบอกเพื่อนข้างบนให้แจ้งหัวหน้าและเจ้าของอาคาร จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิให้มาช่วยเหลือ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศให้อาคารดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลเข้า-ออก
เนื่องจากเกรงว่าอาคารจะทรุดตัวลงมาอีกและได้ให้เจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยว ข้องตรวจสอบอาคารที่เก่าและชำรุด และจะสอบสวนคนงานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ เพื่อสอบสวนหาข้อมูลและรายละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด และจะเรียกตัว หัวหน้าคนงานมาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุต่อไป ส่วนศพนายสมชาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องขุดเจาะจากอาคารที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อนำร่างนายสมชายออกมาจากอุโมงค์ดังกล่าว แต่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเรียกตัววิศวกรผู้ก่อสร้างอาคารมาวางแผนขุดเจาะเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่า เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะถล่มซ้ำลงมาอีก
พ.ต.ต.วรายุทธ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และสอบปากคำคนงานเอาไว้แล้ว
ทั้งนี้จะได้เชิญตัวหัวหน้าคนงาน และผู้ควบคุมก่อสร้างมาสอบสวน แต่จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่าเป็นการรับเหมากันเอง ไม่มีวิศวกรควบคุมงาน ซึ่งจะได้สอบสวนหาตัวผู้ดูแล และผู้ที่กระทำการโดยประมาทมาดำเนินคดีต่อไป ด้านนายสราวุฒิ กลิ่นกุสุม รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองรังสิต ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า อาคารหลังดังกล่าว มีการทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง และการต่อเติมอาคารที่กำลังดำเนินการอยู่ไม่มีการขออนุญาตจากทางเทศบาล แต่การก่อสร้างอยู่ด้านหลังอาคารเจ้าหน้าที่จึงไม่ทราบเรื่อง จนมาเกิดเหตุขึ้น เบื้องต้นตนมอบให้เจ้าหน้าที่โยธาของทางเทศบาลเข้ามาตรวจสอบและสอบสวนเจ้าของอาคารเพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป และสั่งให้หยุดการก่อสร้างและหยุดการใช้งานของอาคารดังกล่าวชั่วคราวเพื่อตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย
นายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเช่นกัน กล่าวว่า
มีการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้ขออนุญาตกับเทศบาลเมืองรังสิตจริง แต่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในตัวอาคารได้ ทั้งนี้จากการมองสภาพอาคารจากภายนอกจะเห็นท่อระบายอากาศ ปล่องควัน รวมทั้งติดตั้งลูกกรงเหล็กรอบตัวอาคาร จึงสั่งให้ปิดใช้อาคารทันที พร้อมกับประสานไปทางสรรพสามิตในฐานะที่รับผิดชอบโดย ตรงในการขออนุญาตจำหน่ายสุราเข้ามาตรวจสอบในวันที่ 21 ม.ค.นี้
รายงานข่าวเผยว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า อาคารดังกล่าวเป็นของนายสิบ ติวัฒนสุข ว่าจ้างให้บริษัท โอก้อน จำกัด มารับเหมาต่อเติมเสาเข็มใต้อาคารที่รับน้ำหนักจากตัวอาคาร
ซึ่งใช้เป็นที่เก็บสุราไทยและต่างประเทศจำนวนมาก และยังเป็นเอเยนต์ขายส่งสุราด้วย จึงเป็นเหตุให้อาคารรับน้ำหนักไม่ไหวและทรุดตัวลง เจ้าของอาคารจึงจ้างบริษัทมาเสริมเสาเข็มที่คานใต้ดินโดยเจาะเป็นอุโมงค์ลงไปในใต้ดิน แต่ขาดการรองรับน้ำหนักที่ดีจึงเป็นเหตุให้คานเหล็กหักทับร่างคนงานดังกล่าว ซึ่งทางเทศบาลเมืองรังสิตมอบอำนาจให้นายสามารถ ปาณะลักษณ์ นายช่างโยธา 7 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของอาคารและผู้รับเหมาต่อไป