ตัดสายวงจรปิด ย่องงัดธนาคาร

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 ม.ค. พ.ต.ต.วิชาญ สุวรรณสิทธิ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองภูเก็ต
 
ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายพยายามลักทรัพย์ในธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศูนย์การค้าติลกอุทิศ 1 ถนนติลกอุทิศ ต.ตลาดใหญ่ หลังรับแจ้งรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข ผกก. พ.ต.ท.สมปอง บุญรัตน์ รอง ผกก.ป. พ.ต.อ.นพดล กันตะกนิษฐ์ ผกก. วท.เขต 44 และชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้น พบนายอรรถกร ฐิติรังสี ผู้จัดการธนาคารรออยู่นำตรวจบริเวณห้องเอทีเอ็มริมถนนชั้นล่างทางเข้าที่จอดรถธนาคารซึ่งมีตู้เอทีเอ็ม 2 ตู้ กระจกหน้าต่างแตกกระจาย แต่ประตูลูกกรงเหล็กหลังห้องยังล็อกกุญแจ เหนือประตูห้องพัดลมดูดอากาศถูกถอดออกมาวางไว้กับพื้นทำให้มีช่องโหว่ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเท่ากับพัดลมดูดอากาศ กว้างและสูงประมาณ 14 นิ้ว
 

เมื่อไขกุญแจเข้าไปดูในห้อง มีกระเป๋าเครื่องมือช่างวางกับพื้น คีมและไขควงอยู่ข้างกระเป๋า

ฝาปิดหลังเครื่องเอทีเอ็มเครื่องขวามือถูกงัดเปิดอ้าออก กระจกฝากล่องควบคุมถูกทุบแตกแต่กล่องเงินยังอยู่ในสภาพปกติไม่ถูกงัดออกมา ตรวจใต้ถุนธนาคารซึ่งเป็นที่จอดรถมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดติดอยู่ด้านใน ปรากฏว่าสายกล้องถูกตัดทำให้กล้องไม่ทำงาน ส่วนกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกตัวที่อยู่เหนือประตูทางเข้าอาคารชั้นบนยังทำงานอยู่
 

สอบสวนนายอรรถกร ฐิติรังสี ผู้จัดการธนาคารทราบว่าห้องที่เกิดเหตุเคยเป็นห้องแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

แต่ปัจจุบันใช้เก็บของและเป็นห้องเอทีเอ็ม หลังจากเลิกงานแล้วได้ปิดล็อกกุญแจทุกห้องตามปกติโดยไม่มียามเฝ้า เนื่องจากมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด กระทั่ง เช้ามาทำงานเห็นกระจกข้างตู้เอทีเอ็มแตกกระจาย จึงแจ้งความ
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดชั้นบนที่คนร้ายไม่ได้ตัดสายพบว่าเมื่อเวลา 00.48 น. มีชายรูปร่างผอม สูงราว 150 เซนติเมตร ผมยาวถึงบ่า สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำเดินมาหยุดหน้าตู้เอทีเอ็มแล้วเดินเลยไป แต่ 1 นาทีให้หลังเดินกลับมายืนหน้าตู้อีกครั้งก่อนจะเดินหายไป ต่อมาเวลา 01.20 น. กลับมาที่ธนาคารแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าจากกางเกงขายาวมาเป็นกางเกงขาสามส่วนและสะพายกระเป๋าเดินเข้าไปใต้ถุนธนาคาร กระทั่งเวลา 02.12 น. กระจกห้องถูกทุบแตกจากด้านในและชายดังกล่าวกระโดดออกมาวิ่งหนีไป
 

พ.ต.ท.สมปอง บุญรัตน์ รอง ผกก.ป. สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า

คนร้ายต้องเคยมาดูลาดเลาอยู่นานจนรู้ว่าไม่มียามเฝ้า เมื่อสบโอกาสจึงลงมือโดยเข้าไปใต้ถุนธนาคาร ตัดสายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งไว้ใต้ถุนธนาคาร แต่ไม่รู้ว่ายังมีกล้องอีกตัวซึ่งจับภาพมุมกว้าง คนร้ายงัดพัดลมดูดอากาศเหนือประตูห้องเอทีเอ็ม ก่อนจะลอดเข้าไปทางช่องติดพัดลมดูดอากาศ แสดงว่าคนร้ายต้องตัวเล็กมาก
 

จากนั้นใช้ไขควงงัดฝาหลังเครื่องเอทีเอ็มออกและทุบกระจกกล่องควบคุมการทำงานของเครื่อง หวังจะเอากล่องเงินซึ่งมีเงินสดตู้ละ 2 ล้านบาท รวม 4 ล้านบาท

แต่งัดแค่ตู้เดียวยังไม่สำเร็จเอากล่องเงินออกมาไม่ได้ ด้วยความกลัวจะถูกจับเลยใช้ของแข็งทุบกระจกแตกและกระโจนออกมาหลบหนีไป ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการตรวจหารอยนิ้วมือแฝงและจะขอดูกล้องโทรทัศน์ วงจรปิดจากอาคารที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์