ตร.ชุมพรระดมล่ามือปืนยิงถล่ม"ฉุย ท่าชนะ" เสี่ยนากุ้ง เจ้าของปั๊มน้ำมันท่าชนะชี้ปมขัดเจ้าพ่อสุราษฎร์เรื่องการบุกรุกที่ดิน
แฉทีมมือปืน 8 คนตามเหยื่อมาตั้งแต่บ้าน สบโอกาสจอดรถซื้อสะตอที่หลังสวน ระดมยิงใส่ คนสนิทรับเคราะห์แทน ตัวเองสาหัส เมียกลัวโดนตามเก็บถึงร.พ. พา"ฉุย ท่าชนะ"หนีออกจากร.พ.ไปรักษาที่อื่น หลังจากหมอรักษาจนพ้นขีดอันตราย
จากคดีอุกอาจมือปืนใช้รถปิกอัพเป็นพาหนะ 2 คันจอดขวางและประกบใช้อาวุธปืนเอ็ม-16 ปืนขนาด 11 ม.ม. และ 9 ม.ม.ยิงถล่มรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นจีแว กอน สีน้ำตาล ทะเบียน ษฮ 9434 กทม. จนพรุนทั้งคัน
เป็นเหตุให้นายยุทธนา ยิ้มใหญ่หลวง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 3 ต.กำแพงแสน จ.นครปฐม คนขับรถเสียชีวิตคาที่ นายชัยรัตน์ กลางนุรักษ์ อายุ 39 ปี หรือฉุย ท่าชนะ เสี่ยนากุ้ง และเจ้าของปั๊มน้ำมัน อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเจ้าของรถถูกกระสุนเฉี่ยวศีรษะ เข้าที่โคนขาซ้ายและขวา 2 นัด บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่หน้าตลาดอวยชัย กลางเมืองหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุคาดปมขัดแย้งเรื่องนากุ้ง และธุรกิจปั๊มน้ำมัน โดยคนร้ายมุ่งฆ่านายชัยรัตน์ ซึ่งปกตินายชัยรัตน์จะเป็นคนขับ มีนายยุทธนาคุ้มกัน แต่ขณะเกิดเหตุ นายชัยรัตน์ให้นายยุทธนาขับ จึงรอดตาย รวมทั้งนางสุชาดา กลางนุรักษ์ ภรรยาที่ลงรถไปซื้อของนั้น
ความคืบหน้าคดี เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ม.ค.
พล.ต.ต.ประพัฒน์ ศิริวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร และพ.ต.อ.สุพจน์ บุญชูดวง ผกก.สภ.หลังสวน จ.ชุมพร เรียกตำรวจฝ่ายสืบสวน และสอบสวน เข้าร่วมประชุมคลี่คลายคดี
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ประพัฒน์ เปิดเผยว่า
จากการสอบพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่ากลุ่มคนร้ายมีทั้งหมด 8 คน เดินทางติดตามเหยื่อจาก อ.ท่าชนะ เพื่อหาจังหวะลงมือระหว่างทาง หรือระหว่างรถเหยื่อแวะพักตามจุดต่างๆ ในพื้นที่จ.ชุมพร เมื่อสบโอกาสที่แวะซื้อสะตอ กลุ่มคนร้ายจึงลงมือ ส่วนรถกระบะที่คนร้ายทิ้งไว้ข้างทาง เป็นรถที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากคนร้ายทำลายหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าเป็นเลขเครื่อง หรือหลักฐานอื่นใด แต่เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบต่อไป
ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวต่อว่า
ส่วนสาเหตุนั้น ทางตำรวจยังตั้งแนวทางไว้เรื่อง ข้อขัดแย้งเรื่องธุรกิจ ที่ดิน ธุรกิจนากุ้ง ที่ติดค้างเงินหลายล้านบาท อีกปมอาจขัดแย้งกับเจ้าพ่อรายใหญ่ในจ.สุราษฎร์ธานี เพราะเคยมีเรื่องบุกรุกเข้าไปในที่ดินของเจ้าพ่อคนดังกล่าว อีกทั้งยังมีประเด็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องทวงหนี้ โดยล่าสุดนายชัยรัตน์ไปทวงหนี้นักการเมืองคนหนึ่งในจ.ชุมพร ถึงขั้นยิงขู่กันมาแล้ว จึงสั่งการให้เร่งคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ โดยแบ่งทีมตำรวจสายสืบเป็น 2 ทีม และสายสอบ สวนอีก 2 ทีมเดินทางไปประสานงานกับตำรวจจ. สุราษฎร์ธานี เพื่อหารายละเอียดข้อขัดแย้งที่เป็นชนวนฆ่า
ต่อมาตำรวจ สภ.หลังสวน เดินทางไปยังร.พ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบปากคำนายชัยรัตน์ แต่เจ้าหน้าที่ร.พ.แจ้งว่า นางสุชาดา ภรรยา นำนายชัยรัตน์ซึ่งอาการพ้นขีดอันตรายภายหลังแพทย์ผ่าหัวกระสุนออกแล้ว ออกจากร.พ.ไปรักษาตัวที่อื่น เนื่องจากกลัวว่าคู่อริจะตามมาเก็บถึงในร.พ.