ระทึกกลางเวหา 2 เครื่องบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ของไทย หวิดชนประสานงากลางอากาศ จากความผิดพลาดเรื่องเพดานบิน ที่เกิดบินมาอยู่ในระดับเดียวกัน
เผยเหตุเกิดเมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา สายการบินนกแอร์บินจากเชียงรายเข้ากรุงเทพฯ จนมาถึงอ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ 2 นักบินไทยแทบช็อก เพราะมีสัญญาณเตือนระวังการชนดังขึ้น จึงรีบปลดการบินอัตโนมัติมาเป็นบังคับด้วยมือหักหลบ สายการบินวัน-ทู-โก ที่บินจากดอนเมืองสู่เชียงราย ซึ่งแล่นสวนมาอย่างทันท่วงที กรมการขนส่งทางอากาศ สั่งตั้งกก.สอบทันที
เผยเบื้องต้นพบเครื่องบินวัน-ทู-โก ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่เกิดอุบัติเหตุไถลออกจากรันเวย์สนามบินภูเก็ต
มี 2 นักบินอินโดฯ ควบคุมมีปัญหาการบินอัตโนมัติที่ตั้งไว้เกิดหลุด ทำให้เครื่องไต่เพดานความสูงขึ้นไปเท่าทับเส้นทางบินของนกแอร์ที่บินสวนมา แต่โชคดีไม่เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ด้านประธานสอบฯ ชี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานหาสาเหตุที่แน่ชัด อ้างเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นประจำไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางอากาศ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2550 ที่ผ่านมา
เมืองไทยเกือบตกเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เพราะเกิดเหตุเครื่องบินโดยสาร 2 ลำแล่นเฉี่ยวกันบนน่านฟ้าอ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ หลังเกิดปัญหาขัดข้องจนเพดานบินผิดพลาด บินสวนในระดับเดียวกันจนเกือบเกิดโศกนาฏกรรมกลางเวหา ระหว่างสายการบินนกแอร์ และสายการบินโอเรียนไทย หรือวัน-ทู-โก
นกแอร์-วันทูโก บินเฉี่ยว! หวิดชนเละ-กลางเวหา
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่สายการบินนกแอร์เที่ยวบินที่ ดีดี 8715 ใช้เครื่องบินแบบ โบอิ้ง 734 ออกเดินทางจากสนามบินเชียงรายเมื่อเวลา 11.05 น. มุ่งหน้าสนามบินดอนเมือง
โดยหอบังคับการบินกำหนดเพดานความสูงในการบินที่ 33,000 ฟิต แต่เมื่อบินมาถึงบริเวณอ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อุปกรณ์แจ้งเตือนเครื่องบินชนกันกลางอากาศ(CAS) แจ้งเตือนว่ามีเครื่องบินมุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง นักบินซึ่งเป็นชาวไทยทั้งสองคนรีบปลดเครื่องเดินอากาศอัตโนมัติ(AUTO PILOT) เปลี่ยนเป็นบังคับด้วยมือ หักหลบเครื่องบินอีกลำที่แล่นพุ่งสวนเข้ามาได้ทันท่วงที
สำหรับเครื่องบินอีกลำเป็นของสายการบินโอเรียนไทย หรือวัน-ทู-โก เที่ยวบินที่ โอจี 8104
ใช้เครื่องบินแบบ เอ็มดี 82 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่เกิดอุบัติเหตุไถลออกจากรันเวย์สนามบินภูเก็ต เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองเวลา 10.20 น. มุ่งหน้าสู่สนามบินเชียงใหม่ กำหนดถึงในเวลา 11.30 น. ซึ่งหอบังคับ การบินกำหนดความสูงในการบินที่ 32,000 ฟิต แต่เกิดความผิดพลาดทำให้เพดานบินไต่ระดับขึ้นไปอยู่ในเพดานบินของเครื่องบินสายการบินนกแอร์ ที่แล่นสวนทางมา
รายงานข่าวแจ้งว่าการสอบสวนเบื้องต้นนักบินของสายการบินโอเรียนไทย ซึ่งเป็นนักบินชาวอินโดนีเซียทั้งสองคน แจ้งว่าเหตุที่เกิดความผิดพลาดขึ้น
เพราะเครื่องควบคุมการบินอัตโนมัติเกิดหลุด ทำให้เครื่องไต่เพดานขึ้นไปเกินความสูงที่ตั้งไว้ หลังจากกรมการขนส่งทางอากาศ ได้รับรายงานเหตุดังกล่าว จึงมีคำสั่งแต่งตั้งนายจรูญ มีสมบุญ ผู้อำนวยการกองมาตรการการบิน กรมการขนส่งทางอากาศ เป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และมีนายวุฒิชัย สิงหมณี รองอธิบดีฝ่ายความปลอดภัย กรมการขนส่งทางอากาศ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดพลาดซ้ำขึ้นอีก
ด้านนายจรูญ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุการณ์ปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้
และในขณะนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด อยู่ระหว่างการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปหาข้อมูล เพื่อจะได้ทราบว่าเกิดจากอะไร คาดว่าจะรู้ข้อเท็จจริงได้ไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้ไป โดยการหาข้อมูลต้องหาจากเทปการตอบโต้กันระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะปกติแล้วได้รับรายงานในลักษณะนี้ทุกเดือน
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท วัน ทู โก แอร์ไลน์ จำกัด และบริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ จำกัด ผู้บริหารสายการบินวันทูโก เปิดเผยว่า
ยังไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นเพราะเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์ถึงขั้นเครื่องบินเกือบชนกันกลางอากาศ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ คงจะต้องมีหลายระดับที่ต้องสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ของสายการบินที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางสายการบินวันทูโกจะไม่ละเลยเป็นอันขาด ความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นเรื่องสำคัญ และจะต้องใส่ใจในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ส่วนในกรณีที่เป็นเครื่องบินรุ่นเดียวกับที่เกิดเหตุที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ต้องยอมรับว่าเพิ่งรู้ข่าวในวันนี้ ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดจริงๆ ซึ่งจะขอติดต่อสอบถามรายละเอียดกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสายการบินก่อน
ส่วนนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า
กรณีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างสอบสวน ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัด แต่เท่าที่ทราบรายละเอียดในเบื้องต้น คือมีเครื่องบินของสายการบินวันทูโกได้ลดระดับการบินลงมา ในระหว่างที่เครื่องบินบินสวนกัน จนส่งผลให้เกือบชนกันกลางอากาศ ทำให้เครื่องบินของนกแอร์ต้องหลบ แต่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ขณะนี้ทางกรมการขนส่งทางอากาศกำลังสืบสวนอยู่ คาดว่าจะสรุปได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ และที่ทางกรมการขนส่งทางอากาศต้องเรียกทั้งสองฝ่ายเข้าไปชี้แจง เพราะต้องการทราบความเป็นจริงที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก เพราะถือว่าเป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร