ควายวัดเลี้ยงเสือ ขวิดหนุ่มอิสราเอล ลอยละลิ่วบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 ม.ค. พ.ต.ท.มิลินทร์ เพียรช่าง สว.ผ.8กก.2บก.ทท.กาญจนบุรี รับแจ้งจากทาง รพ.กาญจนบุรีเมมโมเรียล ว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกสัตว์ ทำร้ายบาดเจ็บมารักษาตัว จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายซารอน เมมอน อายุ 28 ปี ชาวอิสราเอล มีบาดแผลฉีกขาดที่นิ้วหัวแม่โป้งเท้าขวา แพทย์ต้องเย็บ 5 เข็ม เข่าขวาและโคนขาขวามีรอยช้ำบวม ศีรษะกระแทกพื้นจนบวมปูด แพทย์ต้องเอกซเรย์สมองเพื่อตรวจหาร่องรอยการบาดเจ็บ แต่ไม่พบความผิดปกติหรือเลือดคั่ง สอบสวนนายซารอนให้การผ่านล่ามว่า เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเป็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่รวม 40 คน ก่อนเกิดเหตุนั่งรถตู้รวม 4 คัน เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้า พอตอนบ่ายกรุ๊ปทัวร์ก็พามาเที่ยวที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค ซึ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเรื่องที่พระเลี้ยงเสือโคร่งจนเชื่องขนาดจูงเล่นได้เหมือนสุนัข แถมยังมีสัตว์ป่านานาชนิดมาขอพึ่งใบบุญจากทางวัด
 

นายซารอนกล่าวต่อไปว่า หลังจากเที่ยวชมส่วนที่เลี้ยงเสือรวมทั้งหุบเสือแล้ว ก็ชวนเพื่อนๆเดินต่อเข้าไปทางด้านหลังหุบเสือ

พบฝูงควายกำลังกินหญ้าอยู่ข้างทาง จึงวิ่งเข้าไปใกล้หวังจะถ่ายรูปคู่ไว้เป็นที่ระลึก ปรากฏว่าควายเกิดตื่นตกใจพุ่งตรงเข้ามาใช้เขาขวิดบริเวณหว่างขาเต็มแรงจนร่างลอยละลิ่วไปไกลกว่า 4 เมตร ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โชคดีที่ควายไม่พุ่งเข้ามาทำร้ายซ้ำ เพื่อนที่ไปด้วยจึงช่วยกันพยุงกลับออกจากวัดและพาส่ง รพ.รักษาตัวดังกล่าว ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทางบริษัทประกันชีวิตที่กรุ๊ปทัวร์ทำไว้ขณะเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทยเป็นคนรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลในเบื้องต้น สำหรับนายซารอนทางแพทย์อนุญาตให้กลับที่พักได้ ทาง พ.ต.ท.มิลินทร์จึงประสานพาไปพักในรีสอร์ตเขต อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อรอเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ไทรโยคท้องที่ที่เกิดเหตุในวันที่ 17 ม.ค.นี้ เพื่อหาตัวคนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์นาย อธิธัช ศรีมณี ผู้ดูแลวัด

ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์สัตว์ของวัดทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่อย่างใด เมื่อสอบถามว่าทางวัดมีการเลี้ยงควายไว้หรือไม่ นายอธิธัชยอมรับว่ามีควายที่อาศัยอยู่ในวัดจริง เป็นควายที่มาจากการไถ่ชีวิตแล้วนำมาปล่อยในเขตวัดเพื่อให้หากินเองตามธรรมชาติ พร้อมกันนี้ยังได้ชี้แจงกรณีที่ถูกร้องเรียนเรื่องการเรียกเก็บค่าผ่านประตูวัดราคาหัวละ 300 บาท ว่า ทางวัดเปิดให้เข้าฟรีช่วงก่อนเที่ยง หลังเที่ยงไปแล้วจะเก็บเงินทุกคน และในอนาคตจะมีการปรับเพิ่มอัตราค่าผ่านประตูสูงขึ้นไปอีก เพราะทางวัดมีภาระและค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
 

สำหรับวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เคยตกเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

เมื่อกลุ่มนักท่องเที่ยวพากันร้องเรียนเรื่องที่ทางวัดจัดเก็บค่าผ่านประตูสูงถึงหัวละ 300 บาท ทั้งคนไทยและต่างชาติ ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กก็เรียกเก็บอัตราเดียวกันหมด อีกทั้งยังมีเรื่องมารยาทของเจ้าหน้าที่ของวัดที่พูดจาไม่ค่อยสุภาพ เมื่อผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ของวัดว่า ทางวัดจะเปิดให้คนไทยเข้าฟรีช่วงเวลา 08.00-12.00 น. ของทุกวัน หลังจากนั้นจะเก็บเงินค่าเข้าวัดคนละ 300 บาทไม่มีการลดหย่อนหรือละเว้น
 

ทั้งนี้ ทางวัดให้เหตุผลว่ามีภาระเรื่องค่าอาหารสัตว์และค่าจ้างแรงงานผู้ดูแลพิเศษ

เนื่องจากสัตว์ส่วนใหญ่ถูกปล่อยให้อยู่อย่างอิสระ ต้องมีการจ้างเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ เนื่องจากแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และช่วงเทศกาลต่างๆ ขณะที่ ผวจ. กาญจนบุรีและนายอำเภอไทรโยค อยู่ระหว่างประสานกับทางวัดเพื่อหาทางออกเรื่องเก็บค่าผ่านประตูให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็มาเกิดเรื่องควายขวิดนักท่องเที่ยวจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว