จากล่องแก่งมรณะ ถึงรางสไลเดอร์หัก สวนสยามโบกมือลา


แล้วก็เกิดอุบัติเหตุซ้ำสองขึ้นที่ "สวนสยาม" อีกจนได้

หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 50 ที่ผ่านมา เกิดเหตุสลดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งที่สวนน้ำชื่อดังแห่งนี้ เมื่อเครื่องเล่น "อินเดียน่าล็อก" หรือ "เรือล่องแก่ง" เกิดไฟฟ้าดับกะทันหัน ทำให้เรือซุง 2 ลำลื่นไหลลงมาจากที่สูง 8 เมตร หล่นลงมากระแทกกันทำให้มีผู้สังเวยชีวิต 1 ศพบาดเจ็บสาหัสอีก 7 ราย สังเวยเครื่องเล่นเก่าอย่างน่าสลด!!

เหตุการณ์ครั้งนั้นเชื่อว่าใครหลายคนยังจำภาพได้ติดตา เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับสวนสนุกที่มีเด็กๆ เข้าไปใช้บริการจำนวนมากแบบนี้

ขณะที่ผลทางคดีของอุบัติเหตุครั้งแรกยังไม่จบสิ้นตามกระบวนการ เนื่องจากมีผู้เสียหายบางรายยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าของสวนสยาม

จู่ๆ ก็มาเกิดอุบัติเหตุขึ้นซ้ำสองอีกจนได้ อุบัติเหตุล่าสุดที่เกิดกับสวนสนุกสวนสยาม เกิดขึ้นตอนเย็นวันที่ 12 ม.ค.ซึ่งเป็นวันเด็ก มีพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกหลานไปเที่ยวเล่นที่สวน สยามกันจำนวนมาก ซึ่งขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่กับการเล่นน้ำอยู่นั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าเครื่องเล่นชิ้นหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า "ซูเปอร์ สไปรอล" ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 15 ปี ตั้งอยู่ในสวนน้ำ ลักษณะเป็นท่อรางสไลเดอร์ทำด้วยไฟเบอร์กลาส เป็นวงเกลียว 4 ชั้น มีน้ำไหลหล่อเลี้ยงไหลวนบนรางให้ผู้เล่นไหลลื่นลงมาด้านล่างจะเกิดชำรุดพังเสียหายเพราะนอตหลุด ทำให้เกิดรอยแยกตรงกลางจนท่อไฟเบอร์กลาสอ้าออก เลยทำให้เด็กๆ ที่เล่นสไล เดอร์อยู่ในนั้นไหลหลุดออกจากท่อ หล่นลงมากองรวมกันด้านล่างเสียงดังโครมใหญ่



นาทีนั้นมีแต่เสียงร้องไห้ดังระงม!!

ด้วยความสูงกว่า 2 เมตรจากจุดที่รางสไลเดอร์หัก ทำให้เด็กๆ ที่ไหลหลุดออกมาหล่นกระแทกกับพื้นเข้าอย่างจัง บางคนหล่นไปโดนเก้าอี้ล้มระเนระนาด นับรวมผู้บาดเจ็บได้ทั้งหมดถึง 28 คน หัวแตก แขน-ขาหัก จุกเสียดเพราะแรงกระแทกไปตามๆ กัน บางคนหัวแตกเลือดไหลอาบ เจ้าหน้าที่รีบนำส่งร.พ.นพรัตน์ราชธานีทันที

หลังคนเจ็บถึงโรงพยาบาลแพทย์จึงรีบทำการรักษา

พบว่าส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บตามเนื้อตัวและฟกช้ำดำเขียวไปทั่วเพราะตกจากที่สูง หลังปฐมพยาบาลแพทย์อนุญาตให้เด็ก 24 คนกลับบ้านได้เนื่องจากได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนอีก 4 คน คือ ด.ช.วัชรพงษ์ แสงไสย์ อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บคิ้วขวาแตก ด.ช.วสิษฐ์พล ทองน้อย อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลังยุบ ด.ช.กีรทรัพย์ ปาทาน อายุ 11 ปี ได้รับบาดเจ็บปวดหลัง และ ด.ช.สิทธิเดช นิสสัยสุข อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บกระทบกระเทือนทางศีรษะ แพทย์ขอตัวไว้ดูอาการ ซึ่งจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในภายหลัง

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยไว้ก่อน หลังเกิดอุบัติเหตุ ทางสำนักงานเขตคันนายาวมีหนังสือสั่งปิดเครื่องเล่นดังกล่าวทันที 15 วัน

เพื่อให้ทางสวนสยามทำ การตรวจสอบและซ่อม แซมให้อยู่ในสภาพ พร้อมใช้งาน ซึ่งถ้าหากไม่ซ่อมแซมก็จะสั่งปิดโดยไม่มีกำหนดทันที ขณะที่ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ ก็นำคณะพนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อมและรวบรวมหลักฐานทุกอย่างเอาไว้ดำเนินการกับคนผิด



ซึ่งหากตรวจพบว่าเกิดจากความประมาทเลิน เล่อ ก็จะต้องดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ พนักงานคุมเครื่องเล่น และวิศวกรควบคุม จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ส่วนในเรื่องความเสียหายค่าชดเชยทด แทน เป็นเรื่องที่ผู้บาดเจ็บกับทางเจ้าของสวนสยามต้องไปตกลงกันเอง ซึ่งอย่างไรก็ตาม ตำรวจจะทำหน้าที่คนกลางในการเจรจาระหว่างเจ้าของธุรกิจกับผู้ปกครองเด็กที่บาดเจ็บ ทุกคนมุ่งหวังอยากเห็นความรับผิดชอบจากสวนสยาม ไม่ใช่หลังเกิดเหตุก็แค่แจกบัตรฟรีให้คู่กรณีเหมือนอย่างที่เคยทำ!?!

ตัวอย่างอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้ตำรวจต้องออกมาขอความร่วมมือจากเจ้าของผู้ประกอบการสวนสนุกทั่วประเทศ

ให้ช่วยกันหมั่นตรวจสอบและดูแลอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ให้อยู่ในความปลอด ภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นอีก โดยเฉพาะสวนสนุกเร่ที่มีอยู่ดาร ดาษตามหมู่บ้านหรืองานวัดทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่มีสภาพเก่าคร่ำครึ หากไม่ดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ขนาดสวนสนุกยักษ์ใหญ่ยังหาความปลอดภัยไม่ได้ แล้วสวนสนุกขนาดเล็กจะหาความปลอดภัยได้ที่ไหน!??

เหตุสลดที่เกิดกับสวนสยามในครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บยิ่งนัก บางรายถึงขนาดโทร.ไปต่อว่า นายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ เจ้า ของสวนสยามอย่างใส่อารมณ์ หาว่าทำธุรกิจเพื่อมุ่งหวังแต่ผลกำไร ไม่ยอมซ่อมแซมดูแลอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ จนทำให้เกิดอุบัติ เหตุขึ้นได้ เสียงสะท้อนทั้งหมดทำให้นายไชยวัฒน์ต้องออกมาแถลงข่าวเปิดใจว่า รู้สึกเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของใคร ต้องโทษการบริหารจัดการของตัวเอง พร้อมกับยืนยันว่าที่ผ่านมาตลอด 26 ปี พยายามทำเพื่อเด็กๆ มาตลอด แต่เมื่อมีคนมาพูดแบบนี้ก็รู้สึกน้อยใจ จึงตัดสินใจขายสวนสยามทิ้งในราคา 5 พันล้านบาท

ล่าสุดมีนักธุรกิจทั้งชาวเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ติดต่อขอซื้อเครื่องเล่นเหล่านี้แล้ว

"ผมได้ยินพ่อแม่ของเด็กผู้เสียหายต่อว่าก็ท้อใจ จึงตัดสินใจประกาศขายกิจการสวนสยามผ่านสื่อมวลชน หากใครต้องการซื้อสวนสยามขอให้รีบติดต่อ จะซื้อแบบทั้งหมดหรือซื้อแต่เครื่องเล่นแบบแยกชิ้นก็ยินดีที่จะขายให้ ในส่วนของเครื่องเล่นมูลค่ารวมประมาณ 2 พันล้านบาท ส่วนที่ดินและสวนน้ำกว่า 300 ไร่ ถ้าขายได้ตีมูลค่าเป็นเงิน 3 พันล้านบาท ทั้ง 2 อย่างรวมมูล ค่ากว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งผมไม่คิดจะเปลี่ยนใจไม่ขาย นอกเสียจากจะหาคนซื้อไม่ได้เท่านั้น เพราะตอนนี้รู้สึกเหนื่อยและอายุมากแล้ว แต่ในระหว่างนี้ยังจะเปิดให้บริการสวนสยามต่อไป เพราะต้องหาเงินจ่ายดอกเบี้ยธนาคาร" เจ้าของสวนสยามกล่าวทิ้งท้าย

ถึงแม้ว่าเจ้าของสวนสยามจะออกมาปิดฉากรูดม่านตำนานสวนสนุกลงโดยปริยาย แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีสวนสนุกอีกมากมายหลายแห่งที่ยังเปิดให้บริการลูกค้าต่อไป ซึ่งถ้าหากสวนสนุกเหล่านี้ยังคงละเลยต่อเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย บทสุดท้ายก็จะคล้ายกับสวนสยาม

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์