ปดส.รวบคาบ้าน สาวร่วมแก๊งตุ๋น ส่งคนไป ญี่ปุ่น

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 15 ม.ค. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปดส. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข ผกก.3 บก.ปดส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่ง

นำหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 52/2551 ลงวันที่ 14 ม.ค. เข้าค้นบ้านเลขที่ 90/181 หมู่บ้านฟลอรา วิลล์ พาร์คซิตี้ ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. หลังสืบทราบว่าเป็นที่หลบซ่อนตัวของ น.ส.ปณิตา เกียรติเจริญ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3645/2550 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2550 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศ โดยการหลอกดังกล่าวได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอก ฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันจัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต และจัดหาแรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
 

พบเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ทรงยุโรป ปลูกอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา

ขณะเจ้าหน้าที่แสดงหมายเพื่อเข้าตรวจค้น มีหญิงสาวอ้างว่าชื่อ น.ส.งามนัญ หรือโอ๋ ทันกุศล อายุ 31 ปี ออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและรับว่าเป็นเจ้าของบ้าน เมื่อตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานบุคคลในหมายจับแล้วพบว่าตรงกับ น.ส.ปณิตา จึงได้สอบถามว่าใช่บุคคลเดียวกันหรือไม่ หลังยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับกุม พร้อมให้นำเข้าตรวจค้นภายในบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ รุ่นอี 280 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3ษ-3738 กรุงเทพมหานคร 1 คัน รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ษ-7131 กรุงเทพมหานคร 1 คัน ตู้เซฟ 2 ใบ เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 ชุด โทรทัศน์สี เครื่องใช้ไฟฟ้า กระเป๋าเดินทางแบบล้อเลื่อน เอกสารการจ้างงานอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมด 31 รายการ
 

พ.ต.อ.สุวิชญ์พลกล่าวว่า สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ใช้ แรงงานจำนวน 59 ราย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปดส.ว่า

มีชายอ้างชื่อนายจารุพัฒน์ ศิริกุลเดชพงษ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.เมลเบิร์นแอนด์ โอซาก้า กับพวก มีนายจักรสัณฑ์ ณ พัทลุง น.ส.ปณิตา เกียรติเจริญ นายชานนท์ ไม่ทราบนามสกุล นายคำ ไม่ทราบนามสกุล นายอาจินต์ สินอินทร์ นายวิรัช ไม่ทราบนามสกุล และนายละมุล พิลาราช หลอกลวงกลุ่มผู้ใช้ แรงงานว่าที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังต้องการคนงานคัดแยกเครื่องยนต์จำนวนมาก เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้นายจารุพัฒน์ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการ เดินทาง รวมทั้งสิ้น 9,012,500 บาท แต่ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปดส.จึงวางแผนนำกำลังพร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรีเข้าตรวจค้นจับกุมและยึดทรัพย์สินต่างๆมาดำเนินคดี
 

จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.งามนัญเคยรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ประจำอยู่ที่ จ.สระแก้ว

ต่อมาได้ลาออกจากราชการ และมารู้จักกับนายเมธิชัย ธรรมคุตต์ หรือนายภาวัต คุณความสุข อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/3 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เปิด หจก.เมลเบิร์นแอนด์โอซาก้า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับนายเมธิชัยดำเนินการต่างๆในการจัดหาแรงงานจริง ขณะที่นายวีรวัฒน์ เจิมเฉลิม อายุ 44 ปี ชาว จ.พะเยา หนึ่งในแรงงานผู้เสียหาย กล่าวว่า มีผู้มาชักชวนถึงบ้านพักให้ไปทำงานเป็นช่างอะไหล่รถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น มีค่าตอบแทนสูง แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการเป็นเงิน 345,000 บาท จึงไปกู้เงินนอกระบบมาเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว จากนั้นทางบริษัทได้นัดขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อไปถึงกลับติดต่อกับใครในบริษัทนี้ไม่ได้เลย จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง และเข้าแจ้งความกับ บก.ปดส. เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนต้องขายที่นาเพื่อชำระหนี้นอกระบบจนสิ้นเนื้อประดาตัว
 

ด้าน พล.ต.ต.วิมลกล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนพบข้อมูลว่านายเมธิชัยเป็นตัวการสำคัญ เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงแรงงานมาแล้วในท้องที่ สน.ลุมพินี

และได้หลบหนีไปในระหว่างได้รับการประกันตัว ซึ่งที่ผ่านมานายเมธิชัยกับพวกได้หลอกลวงแรงงานให้เสียเงินค่าดำเนินการให้ แล้วปิดบริษัทหนี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท เมื่อเรื่องเงียบหายก็จะกลับมาเปิดบริษัทในชื่อใหม่ ส่วนผู้ร่วมขบวนการก็จะเปลี่ยนชื่อ นามสกุลใหม่ จึงอยากฝากเตือนแรงงานที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ให้ตรวจสอบข้อมูลบริษัทจัดหางานให้ถี่ถ้วน และขอความร่วมมือประชาชนที่ทราบเบาะแสของกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ ให้แจ้งกับบก.ปดส. เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป