โดย ธนากร ตันอาวัชนการ ประธานชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต '...การแก้ไขตึกโตคิวคือ ต้องออกแบบรูปทรงใหม่หมด กลับทิศทางของตึกใหม่...' อันที่จริงการสร้างบ้านแต่ละหลัง ตึกแต่ละแห่ง ถ้ามีการถกปัญหากันในแบบแปลนก่อนสร้างจะมีประโยชน์มาก โดยนำหลักของวิชาฮวงจุ้ยเข้ามาพูดคุยกันด้วย เพราะถ้าลงมือสร้างแล้ว ใช้เงินลงทุนกันเป็นล้านๆ มีเงินมากมาย จะมัวเชื่อฮวงจุ้ยให้ทุบและรื้อทิ้งก็ทำไม่ได้ ตั้งแต่ในอดีตมีตึกโตคิวอยู่บนถนนรัชดาภิเษกเกิดขึ้น ก็ได้เฝ้าดูอยู่เงียบๆ นึกสงสารตึกที่วางตำแหน่งในทำเลที่กระแสตีจาก โดยมีแม่น้ำไหลผ่านหน้า คือถนนรัชดาฯตัดโค้งหายไปเรื่อยๆ ถ้าตึกมีชีวิตจะอดอิจฉาตึกโรบินสันไม่ได้ เพราะฝั่งตรงข้ามกลับคึกคักอยู่ตลอด เปรียบเหมือนปลาต่างๆ พากันว่ายเข้าไปในตึกหน้าอย่างง่ายดาย ผ่านตึกโตคิวไปแบบไม่สนใจไยดี นั่นเป็นกฎเกณฑ์ข้อที่ 1 ที่สร้างตึกหันหลังให้ทิศทาง ได้แต่มองน้ำที่กำลังไหลจากไปโดยไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ กฎเกณฑ์ข้อที่ 2 การสร้างตึกหรือบ้านนั้นควรปล่อยให้ด้านหน้าโล่งให้มาก อย่าสร้างจนติดถนนเกินไป เป็นเช่นนี้ทางสถาปนิกมักเรียกว่า พลาซ่า ทางฮวงจุ้ยเรียกว่า เหม่งตึ้ง ปัจจุบันห้างร้านต่างๆ ไม่ว่าโลตัส คาร์ฟูร์ จะปล่อยให้ลานด้านหน้าเป็นที่จอดรถมากขึ้น นับว่าเข้าหลักทางฮวงจุ้ย ส่วนตึกโตคิวนั้น ไม่ต่างจากประตูน้ำเซ็นเตอร์เท่าไรนัก กฎเกณฑ์ข้อที่ 3 ตึกโตคิวซึ่งด้านหน้านอกจากจะไม่โล่งแล้ว ยังมีถนนและเกาะด้านหน้าตัดกันเป็นลักษณะของธาตุไฟ เรียกทางฮวงจุ้ยว่า 'หวยแช' ผนวกกับตึกหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นธาตุทอง เมื่อทองเจอกับไฟ ก็จะทำร้ายกันอยู่ อย่าว่าแต่ตึกโตคิวเลย แม้จะเป็นตึกอะไรมาอยู่ตรงนี้แถมเป็นทิศทางอย่างนี้ด้วยแล้ว ทำอย่างไรก็ย่ำแย่ กฎเกณฑ์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องของชัยภูมิและทิศทางเท่านั้น ผมจะขอเจาะลึกลงไปถึงรูปทรงของตึกโตคิวด้วยนะครับ เพราะรูปทรงนั้นสำคัญมาก เนื่องจากตึกโตคิวก่อนแก้ไขนั้น ตึกด้านล่างเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ทางฮวงจุ้ยเป็นธาตุดิน มีโค้งมนอยู่ตรงกลาง เป็นธาตุทอง แต่ส่วนบนกลับออกแบบเป็นสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นธาตุไฟ เป็นกฎเกณฑ์ที่รูปทรงผิดลักษณะที่ทำร้ายกัน ส่งผลให้มีความขัดแย้งภายในกันเอง จึงไม่มีกำลังที่จะไปสู้กับภายนอกได้ แต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงรูปทรงใหม่แทบทั้งหมด มีการเอียงทิศทางของตึกจากองศาที่ล้มเหลวเข้าสู่องศาที่ดีขึ้น คือ อยู่ที่ 90 องศา ทิศตะวันออก หันหน้าที่ 270 องศา ซึ่งเป็นทิศตะวันตก ถ้ายืนดูด้านหน้าจะเห็นรูปทรงของตึกกับประตูทางเข้าไม่ขนานกัน จึงถือว่าตึกนี้ฮวงจุ้ยดีเฉพาะตึกล่างเท่านั้น ที่อยากจะติที่สุดก็คือ ตึกแท่งที่วางอยู่ตรงกลางบนหลังตึก มีภาพเหมือนตึกเวิลด์เทรดในอเมริกา รูปทรงธาตุไม้ปักอยู่บนหัว หรือเหมือนมีธูป 2 ดอกปักอยู่บนกระถางสี่เหลี่ยม ซึ่งน่ากลัวมาก แถมยังปล่อยให้ตรงกลางมีช่องลม ซึ่งเรียกทางฮวงจุ้ยว่า 'ฮวงสั่วะ' เชื่อมระหว่างหน้าและหลัง แบ่งตึกนี้ออกเป็น 2 ซีกโดยปริยาย จึงเหมือนกับมีมีดที่ตัดหัวคนในแดนประหาร จึงเป็นรูปทรงที่ไม่เป็นมงคลเอาเลย แค่ตึกก้อนเดียวเป็นที่จอดรถของห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ยังทำให้ห้างเกือบร้างแล้ว ที่ตึกโตคิวกลับมีทั้งสองตึกเป็นธาตุไม้ทำร้ายธาตุดินอยู่ ทำให้ยิ่งขัดแย้งกันมากขึ้น เฉพาะชัยภูมิ ทิศทางรูปทรงนั้นส่งผลต่อตัวตึกเพียงแต่รอระยะเวลาว่าเมื่อไหร่จะเกิดเหตุเท่านั้น จากเหตุการณ์ไฟไหม้ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ทางหลักของฮวงจุ้ยนั้น ดวงดาว 9 ดวง จะทำการโยกย้ายสลับตำแหน่งกันทำงาน เรียกว่า ดาวประจำเดือนมกราคม 2551 ซึ่งมีดาวเลข 9 สีม่วง เป็นธาตุไฟ เข้าสู่กลางดึก กระจายดาวต่างๆ ประจำทิศของตึก โดยดาวร้ายเลข 2 ธาตุดิน ซึ่งเป็นดาวป่วย ไปอยู่ทิศตะวันตก ด้านหน้าของตึกผสมกับซาสั่วะ ซึ่งเป็นดาวร้ายประจำปี ซึ่งห้ามทุบขุดเจาะในทิศนี้ นับเป็นสองเด้งเลยทีเดียว กอปรกับดาวเลข 7 ธาตุทอง ซึ่งเป็นดาวอุบัติเหตุ อยู่ทิศตะวันออก ทับดาวซ้ายผั่ว เป็นเหตุให้ดาวไฟไหม้เจอกัน ดังนั้นเมื่อดาว 2,7,9 มาเจอกัน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับห้างเซ็นทรัลเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เมื่อรูปทรง บวกกับทิศทางและฤกษ์ยาม สัมพันธ์กัน ไฟจึงไหม้ ไม่ใช่ที่ตรงนี้ต้องคำสาปแต่อย่างใด เสียรูปทรงต้องแก้ที่รูปทรง เสียทิศทางต้องแก้ทิศทาง การแก้ไขตึกโตคิวคือ ต้องออกแบบรูปทรงใหม่หมด กลับทิศทางของตึกใหม่ เพื่อหันหน้าสู่ถนนใหญ่ เพื่อรับกระแส ปล่อยด้านหน้าให้โล่งโปร่ง ด้านล่างตัวตึกเพื่อจอดรถให้เข้าด้านหลัง เปลี่ยนสีตึก และห้ามใช้กระจกล้อมรอบมากมาย เพราะกระจกจะดูดกระแสของความวุ่นวายเข้าหาตัวตึก ทำให้ตึกนี้ฟื้นได้ไม่ยาก หม่งสื่อต่อนั้ง เส่งสื่อต่อถี่ หมายความว่า ความพยายามเป็นเรื่องของมนุษย์ ความสำเร็จเป็นเรื่องฟ้าดิน |
วิเคราะห์เหตุไฟไหม้ โตคิว ไม่ใช่ต้องคำสาป...แต่เสียที่ รูปทรง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม วิเคราะห์เหตุไฟไหม้ โตคิว ไม่ใช่ต้องคำสาป...แต่เสียที่ รูปทรง