นางสุพรกล่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่อง ลูกไม่เคยเล่าให้ทราบ กระทั่งมีชาวบ้านมาบอก
ตอนแรกยังไม่เชื่อเพราะ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนในฝัน กระทั่งผ่านไปหลายวัน ได้สอบถามลูกชายและลูกสาวที่เรียนโรงเรียนเดียวกันยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะพี่สาวของ ด.ช.พรชัย เรียนอยู่ชั้น ม.3 บอกว่า ตอนที่ครูประกาศให้ไปดูสัตว์ประหลาด วิ่งไปดูกลับพบว่าเป็นน้องชายถูกล่ามโซ่มีนักเรียนแห่มุงจำนวนมากถึงกับร้องไห้วิ่ง เข้าห้องเรียนด้วยความเสียใจ
“ทุกครั้งที่ส่งลูกไปโรงเรียนเห็นต้นไม้ที่ครูล่ามโซ่ลูก ต้องน้ำตาไหลทุกครั้งด้วยความสงสารลูก เพราะการทำโทษของครูมันเกินกว่าเหตุเป็นการทำร้ายจิตใจเด็กที่รุนแรงที่สุด เคยคิดจะแจ้งความหลายครั้งแต่เกรงว่าครูจะทำร้ายลูกอีก ประกอบกับมีฐานะยากจน เช่าบ้านเขาอยู่มีอาชีพหาของเก่าขาย ไม่มีเงินเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพียงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาปรับปรุงแก้ไขระบบการทำโทษใหม่และไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนคนอื่นอีก” นางสุพร กล่าวทั้งน้ำตา
ขณะที่ ด.ช.พรชัย ลีหล้าน้อย เปิดเผยว่า ได้หนีเรียนวิชาคณิตศาสตร์ พร้อมกับ ด.ช.พรชัย พลสยม
กระทั่งนายดิเรกเรียกไปพบแล้วเอาโซ่มาล่ามที่เอวผูกไว้กับต้นไม้เพื่อเป็นการลงโทษที่หนีเรียน โดยถูกล่ามโซ่ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 14.00 น. ทำให้รู้สึกเสียใจและอายเพื่อนมาก ระหว่างถูกล่ามโซ่ ไม่แตะน้ำในขันแม้แต่หยดเดียว หลังจากนั้นก็ถูกเพื่อนล้อเลียนเป็นประจำว่า “สัตว์ประหลาด” ตามที่ครูประกาศทางเสียงตามสาย มีความรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียนอีก โดยเฉพาะงานวันเด็กไม่กล้าไปเพราะกลัวถูกเพื่อนล้อ
ด้านนายดิเรก บุญเจริญ รอง ผอ.โรงเรียนภัทรบพิตร กล่าวว่า
ยอมรับเป็นคนลงมือล่ามโซ่ 2 เด็กนักเรียนจริง แต่ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายร่างกายหรือทรมานเด็กแต่อย่างใด เพียงต้องการสื่อให้นักเรียนในโรงเรียนไม่ให้คิดหนีเรียนเท่านั้น เป็นการสร้างจิตวิทยามากกว่า เนื่องจากเด็กทั้ง 2 คน เป็นเด็กเกเรไม่ชอบเรียนหนังสือ หนีโรงเรียนเป็นประจำ ทั้งยังมีพฤติกรรมเล่นการพนันในโรงเรียน ที่ผ่านมาเคยเรียกผู้ปกครองมาพบและยังได้เซ็นหนังสือยินยอมให้โรงเรียนทำโทษได้ ซึ่งได้คาดโทษไว้ว่า หากยังหนีเรียนอีกจะล่ามโซ่ แต่เด็กทั้งสอง ยังหนีเรียนอีก เลยต้องทำตามที่เคยพูดขู่ไว้เพื่อให้เข็ดหลาบ และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับเด็กคนอื่น หลังเกิดเหตุยังได้เรียกผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คนมาพบ ซึ่งเด็กและผู้ปกครองไม่ติดใจพร้อมยอมรับในการทำโทษครั้งนี้ด้วย
ส่วนนายวิฑูรย์ วงศ์อินทร์ ผอ.โรงเรียนภัทรบพิตร กล่าวว่า
วันเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในโรงเรียน แต่ทราบว่ามีการทำโทษเด็กด้วยการล่ามโซ่ รีบโทรศัพท์สั่งให้นายดิเรกแก้โซ่ออกจากเด็ก เพราะเกรงจะเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม นายดิเรกก็ทำตามด้วยดี ต่อมาได้เรียกให้ผู้ปกครองเด็กทั้ง 2 มาพบพร้อมกับทำข้อตกลงไม่ให้เด็กหนีเรียนอีก อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนจะไม่ให้เกิดเรื่องราวลักษณะนี้อีก พร้อมว่ากล่าวตักเตือนนายดิเรกไปแล้ว
ทางด้านนายสุรศักดิ์ ศรีสว่างรัตน์ ผอ.สพท.1 เปิดเผยเรื่องนี้ว่า รับทราบข่าวมาตลอดและสั่งให้นายวิฑูรย์ วงศ์อินทร์ ผอ.โรงเรียนภัทรบพิตร ตรวจสอบข้อเท็จจริงและมาชี้แจงเพื่อจะสรุปก่อนจะดำเนินการกับครูที่ก่อเหตุ เพราะได้ย้ำกับครู ผู้บริหารโรงเรียนทุกครั้งว่าให้ใช้ความนุ่มนวลกับนักเรียนเพราะถือว่ายังเด็ก อย่าซ้ำเติมทำร้ายจิตใจ