ปล้นทอง-จนมุม ดันว่ายน้ำหนี

โจรอุตรดิตถ์สิ้นท่าบุกปล้นทองกลางเมืองหนีลงน้ำน่าน

ไปไม่รอดถูกตำรวจตามจับได้ทันควัน หลังจากคิดชั่ววูบจะหาเงินจะไปซ่อมบ้านให้เมีย แต่ไม่มี ถึงร้านทองสองผัวเมียปลอดตำรวจ ใช้เพลารถขว้างใส่ประตูหน้าก่อนบุกปล้นได้ทองไป 8 บาท มูลค่ากว่าแสน หนีไปลงแม่น้ำน่าน ตำรวจตามพบเลยไปดักรออีกฝั่ง รีบล้วงทองทิ้งก่อนถูกรวบตัว

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 ม.ค. ร.ต.ต.เอกพงศ์ ปริษาวงศ์ ร้อยเวรสภ.เมืองอุตรดิตถ์

รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ห้างทองน้ำหนักเต็มเยาวราช เลขที่ 1 ถ.เพลินฤดี ตลาดเทศบาล 4 ต.ท่าอิฐ คนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวนหนึ่ง หลังรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ เรืองประไพ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นร้านทองตั้งอยู่ริมถนน ประตูด้านหน้าเป็นกระจก

พบกระจกหน้าด้านซ้ายของประตูเลื่อนแตกกระจายเกลื่อนเต็มไปหมด พบท่อนเหล็กซึ่งเป็นเพลารถยนต์น้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม ยาวประมาณ 9-10 นิ้ว ตกอยู่ ด้านในร้านเป็นตู้โชว์ทองรูปพรรณทั้งด้านหน้าและติดผนังด้านหลัง ที่ตู้โชว์ด้านล่างและตู้โชว์ติดผนังกระจกถูกทุบกระจกแตกกระจาย สร้อยทองรูปพรรณหนัก 1 สลึงและ 2 สลึง หายไปจำนวนหนึ่ง และพบนายธเนศณัฏฐ์ วุฒิชัยอภิรมณ์ อายุ 33 ปี เจ้าของห้างทองน้ำหนักเต็มเยาวราช พร้อมด้วย นางณัฏฐ์ปัณชญา กุนทรยุพารัตน์ ภรรยา ยืนตัวสั่นให้การว่า ถูกคนร้าย 1 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำ สวมหมวกไหมพรม บุกเข้ามาในร้านและทุบตู้ทองรูปพรรณก่อนจะกวาดทองไปได้ และวิ่งหลบหนีไปทางลานอเนกประสงค์เทศบาลริมน้ำน่านห่างจากร้านประมาณ 200 เมตร

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกตำรวจชุดสายตรวจและชุดปราบปรามสภ.เมืองอุตรดิตถ์ 20 นาย กระจายกำลังออกตามหา

พบนายชาญณรงค์ หรือจอย ประดับศรี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/5 หมู่ 5 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อาชีพรับจ้างทำกระจกและช่างเหล็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบว่าเป็นคนร้ายรายนี้ กำลังวิ่งหลบหนีและกระโดดลงไปในแม่น้ำน่าน กว้างประมาณ 200 เมตร เพื่อว่ายน้ำไปยังฝั่งหมู่บ้านปากคลอง ต.ป่าเซ่า อ.เมืองอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปดักรอที่ฝั่งตรงข้าม เมื่อนายชาญณรงค์ว่ายไปถึงฝั่งและพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงหยิบสร้อยคอทองคำ 1 สลึง และ 50 สตางค์ ออกจากกระเป๋ากางเกงด้านขวารวม 16 เส้น แหวนทองหนักสลึง 2 วง ทิ้งบนพงหญ้าริมแม่น้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมและนำของกลางทั้งหมดไปให้เจ้าทุกข์ชี้ตัว มูลค่าทรัพย์สินทองคำหนัก 8 บาท 50 สตางค์ เป็นเงิน 121,550 บาท

จากการสอบสวนทราบว่า นายชาญณรงค์ต้องการเงินไปซ่อมแซมบ้านให้เมีย

แต่ไม่ทราบว่าจะหาเงินได้จากที่ไหน จึงขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน ต-8130 อุตรดิตถ์ จอดไว้ใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วเดินไปตามทางเท้าหน้าร้านทองที่อยู่บริเวณดังกล่าวประมาณ 10 ร้าน พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรอยู่ เมื่อมาถึงห้างทองน้ำหนักเต็มเยาวราชพบ 2 ผัวเมียเจ้าของร้านอยู่กันตามลำพัง จึงหยิบหมวกไหมพรมสีดำออกมาสวมอำพรางแล้วนำท่อนเหล็กเพลารถยนต์ ที่เตรียมมาขว้างใส่ประตูเลื่อนก่อนจะบุกเข้าไปชิงทรัพย์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป