หั่นศพสาวนิรนาม สักรูปผีเสื้อสะบักขวา ยัดกระเป๋าทิ้งรามฯ24

ตร.จับแขกปากีสถาน ฆ่าหั่นศพสาวนิรนาม โยนทิ้งย่านหัวหมาก
สยองพบร่างสาวถูกฆ่าหั่นศพยัดใส่กระเป๋าสองใบทิ้งริม ถ.รามคำแหง 24 ตัดใหม่ คนกวาดขยะเจอเปิดดูผงะ ใบแรกพบตั้งแต่เอวลงมาจนถึงอวัยวะเพศและท่อนแขนซ้าย ส่วนใบที่สองพบร่างช่วงอกตั้งแต่เอวขึ้นไปถึงต้นคอ ผบช.น.สั่งเร่งแกะรอยสามารถจับกุมแขกปากีสถาน คารีสอร์ท ซ.รัชดา พบของกลางเป็นมีด พนักงานให้การเป็นประโยชน์ แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ


เหตุฆ่าหั่นศพยัดใส่กระเป๋าทิ้งริมถนนอย่างโหดเหี้ยมไม่เกรงกลัวกฎหมายและสะเทือนความรู้สึกคนไทยรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ต.ท.สมภพ ทุนผลงาม สารวัตรเวร สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่าพบกระเป๋าบรรจุชิ้นส่วนมนุษย์ทิ้งบริเวณพงหญ้าข้างถนนรามคำแหง 24 ตัดใหม่ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

และไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.ชัยณรงค์ ลิมปิทีป ผกก.สน.หัวหมาก และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุริมถนนรามคำแหง 24 ตัดใหม่ขาออกมุ่งหน้ากรุงเทพกรีฑา พบกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ขนาดความยาว 2 ฟุต สูง 1 ฟุต ใบแรกเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าสีกรมท่า ขอบสีเทายี่ห้อ MRIK แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดออกดูก็ต้องผงะเมื่อพบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์เพศหญิง ตั้งแต่เอวลงมาจนถึงอวัยวะเพศ ทั้งหมดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่สีเขียวของห้างบิ๊กซีอีกชั้นหนึ่ง เมื่อพลิกชิ้นส่วนดังกล่าวออกดูพบท่อนแขนซ้าย คาดว่าน่าจะเป็นของคนคนเดียวกันวางอยู่ด้วย

ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นร่างมนุษย์ เพศหญิง ผิวขาว อายุประมาณ 20-25 ปี โดยที่ก้นด้านซ้ายมีแผลเป็นคล้ายถูกมีดบาดเป็นทางยาวประมาณ 2-3 นิ้ว

ใกล้กัน เจ้าหน้าที่ยังพบกระเป๋าเดินทางอีกใบหนึ่ง ซึ่งเป็นกระเป๋าขนาดใกล้เคียงกัน สีน้ำตาลครีม ยี่ห้อ ON TIME เมื่อเปิดดูเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนช่วงอก ตั้งแต่เอวขึ้นไปถึงต้นคอยัดทั้งหมดอยู่ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่สีเขียวของห้างบิ๊กซีเช่นกัน

ตรวจสอบเบื้องต้น เชื่อว่าน่าจะเป็นร่างเดียวกัน โดยที่แผ่นหลังบริเวณสะบักด้านขวา ยังพบรอยสักรูปผีเสื้อ และยังพบที่รัดผมแบบผ้าสีน้ำตาลตกอยู่ภายในด้วย ซึ่งจากสภาพศพพบว่ายังสดอยู่ แพทย์ระบุว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 10 ชั่วโมง ก่อนจะเก็บชิ้นส่วนร่างกายทั้งหมดให้แพทย์นิติเวชนำไปชันสูตรอย่างละเอียดต่อไป

พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะที่พนักงานกวาดขยะซึ่งกวาดขยะอยู่ริมถนนรามคำแหง 24 ตัดใหม่นำขยะมากองรวมกัน พบมีกระเป๋า 2 ใบวางอยู่ก่อนแล้ว จึงเปิดดูจึงพบว่าภายในมีชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ซุกซ่อนอยู่ จึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ

"จากการตรวจสอบของแพทย์ กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจเชื่อว่า ศพนี้เป็นผู้หญิง รูปร่างเล็ก ผิวขาว อายุประมาณ 20 กว่าๆ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นคนสัญชาติอะไร ซึ่งจากลักษณะการหั่นศพน่าจะใช้มีดหั่น เนื่องจากกระดูกมีรอยร้าว แต่เนื้อไม่มีรอยยุ่ยมากนัก เพราะถ้ามีรอยยุ่ยมากน่าจะใช้เลื่อย หลักฐานที่พบไม่น่าจะใช่" ผบช.น. เผย

พล.ต.ท.วิโรจน์ เผยต่อว่า ขณะนี้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกไปสืบหาพยานที่อาจเห็นเหตุการณ์ว่ามีผู้ใดนำกระเป๋าทั้งสองใบมาทิ้งหรือไม่ พร้อมทั้งให้กำลังอีกส่วนหนึ่งกระจายแยกย้ายไปตรวจสอบในป่าหญ้ารกร้างใกล้เคียงว่า ยังมีชิ้นส่วนอวัยวะที่เหลือคือ ศีรษะ ขาทั้งสองข้างให้พบ

"ขณะนั้น เรามีเพียงแขนซ้ายซึ่งคงต้องนำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือว่า ศพดังกล่าวเป็นใคร ถึงแม้ว่าจะไม่เจอศีรษะและอวัยวะที่เหลือ ถ้าหากผู้ตายเคยมีประวัติอาชญากรรมก็จะหาได้ง่าย แต่ถ้าไม่มีก็น่าจะตรวจสอบยาก หรือถ้าผู้ตายไม่เคยทำบัตรประชาชน หรือเป็นบุคคลต่างชาติก็อาจจะยิ่งตรวจสอบยาก แต่ก็จะพยายามตรวจสอบให้ได้ว่าเป็นใคร เพราะการกระทำครั้งนี้ถือว่าโหดเหี้ยมมาก และลักษณะการฆ่าลักษณะนี้ไม่เคยปรากฏมานานแล้ว ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นฝีมือแก๊งอาชญากรข้ามชาติต่างๆ ที่เคยเป็นข่าว แต่ได้ให้ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังเพื่อหาจุดที่ลงมือฆ่าให้เจอ เพื่อหาตัวคนที่ลงมือฆ่ามาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป" ผบช.น. กล่าว

ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังสอบสวนพยานคนหนึ่งบริเวณใกล้เคียง ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ มีคนเห็นชายสวมเสื้อเชิ้ตคอกลมสีขาว กางเกงยีน ยืนอยู่บริเวณที่พบศพเหมือนนำสิ่งของมาทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงประสานขอดูกล้องวงจรปิดที่ห้างบิ๊กซี สาขารามคำแหง ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เพราะอาจพบเบาะแสนำไปสู่การสืบหาคนร้ายต่อไป

ต่อมาเวลาประมาณ 22.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 และชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 4 นำกำลังเข้าจับกุม นายมูฮัมหมัด ฮาริด อายุ 34 ปี ชาวปากีสถาน ได้ที่ห้องหมายเลข 1004 ราชารีสอร์ท ซ.รัชดา 16 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบในห้องพักของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่พบเครื่องใช้ของผู้หญิง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.พิชานีย์ ทองนาคแท้ อายุ 21 ปี เป็นชาวอุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าน่าเป็นหญิงสาวที่พบเป็นศพ และพบคราบเลือดในห้องพัก รวมทั้งมีดขนาดใหญ่ 3 เล่ม ที่คาดว่าจะเป็นอาวุธใช้หั่นศพ แต่ในเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ

นอกจากนั้น จากการสอบสวนพนักงานของราชารีสอร์ท ทราบว่าช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ต้องหาได้ขนกระเป๋าออกจากที่พัก 2 ใบ ซึ่งตรวจสอบลักษณะตรงกับใบที่มีชิ้นส่วนของผู้ตายที่พบทิ้งอยู่บริเวณพงหญ้าข้างถนนรามคำแหง 24 ตัดใหม่ และหลังจากนั้น ผู้ต้องหาก็ได้กลับเดินทางเข้ามาในห้องพัก และในเวลาประมาณ 17.00 น. ก็ได้ขนกระเป๋าอีก 2 ใบออกไปจากห้องพักโดยเรียกรถแท็กซี่แต่ไม่ทราบจุดหมาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกระเป๋าบรรจุชิ้นส่วนที่เหลือของศพที่ถูกหั่น ที่ยังไม่พบในจุดแรก คือแขน 1 ข้าง และขา 1 ข้าง เพื่อนำมาประกอบคดีต่อไป