เมื่อ 7 ม.ค. เอพีรายงานว่า เกิดคดีสยองขึ้นที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
เมื่อหนุ่มอเมริกันโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า ตนเองได้สังหารแฟนสาวและให้มาดูเมนูชิ้นส่วนหูมนุษย์ลอยอยู่ในหม้อซุป มีส้อมจิ้มชิ้นเนื้อคาอยู่ในจาน ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้และตั้งวงเงินประกันถึง 70 ล้านบาท และไม่อนุญาตให้ตั้งทนาย
เจ.บี. สมิธ นายอำเภอเขตสมิธ กล่าวว่า
นายคริสโตเฟอร์ ลี แม็กควิน หนุ่มผิวสีวัย 25 ปี โทรศัพท์ไปที่เบอร์ฉุกเฉิน 911 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และแจ้งว่า ตนฆ่าน.ส.จานา ชีเรอร์ วัย 21 ปี และนำชิ้นเนื้อบางส่วนมาทำอาหารที่บ้านแม่ตน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบร่างของน.ส.ชีเรอร์ ที่ถูกตัดแขนขาออกไปแล้ว ในครัวมีหูหนึ่งข้างลอยอยู่ในหม้อน้ำเดือดบนเตา บนโต๊ะอาหารมีส้อมจิ้มชิ้นเนื้อคาอยู่ในจาน"เราพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขากิน เขาอาจจะกินจริง หรือไม่ก็ทำให้เราเข้าใจว่าเขากิน" เจ้าหน้าที่กล่าว
พร้อมสันนิษฐานว่า น.ส.ชีเรอร์ ถูกลักพาตัวไปจากบ้านเมื่อคืนวันศุกร์
โดยแม่ของเหยื่อเห็นลูกสาวขึ้นรถกระบะของนายแม็กควิน แม้ไม่เห็นว่ามีการต่อสู้ขัดขืน แต่ลูกสาวไปทั้งที่ไม่สวมรองเท้า ไม่มีเงินและไม่ได้เอามือถือไปด้วย จากนั้นนายแม็กควินขับรถไปยังบ้านของภรรยาที่แยกกันอยู่ และแทงนายวิลเลียม วีสลีย์ วัย 42 ปี คนรักของภรรยา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในอาการโคม่า เมื่อตำรวจเข้าไปที่เกิดเหตุนายแม็กควินยังอยู่ แต่ขับรถหลบหนีหลังจากนั้นไม่นาน
ต่อมานายแม็กควินปรากฏตัวเช้าวันเสาร์ที่บ้านของแม่ตนเองและเรียกให้แม่และแฟนใหม่ของแม่เข้าไปดูที่โรงรถ
ซึ่งทั้งคู่ได้พบกับชิ้นส่วนศพของน.ส.ชีเรอร์ จึงตกใจและรีบไปสถานีตำรวจ หลังจากนั้นนายแม็กควินจึงโทร.แจ้งตำรวจ จากการชันสูตรศพพบว่า น.ส.ชีเรอร์เสียชีวิตจากการถูกทุบศีรษะ โดยน่าจะถูกฆ่าระหว่างทางจากบ้านที่นายแม็กควินแวะทำร้ายนายวีสลีย์ ด้านเฟรดดี้ คาสติลโล เพื่อนบ้านใกล้เคียง กล่าวว่า ตนมักจะได้ยินนายแม็กควินทะเลาะโต้เถียงเสียงดังกับแฟนสาวในบ้านและสวนหลังบ้านบ่อยๆ และทุกครั้งทั้งคู่จะตะโกนใส่กันก่อนที่แม็กควินจะขึ้นรถและขับออกไป