ตร.อุดรฯ บุกรวบพระลาวกับสาวไทยเปิดบ้านตั้งตนเป็นคนทรงเจ้า "หลวงปู่หนองจอก"
หลังได้รับการร้องเรียนสงสัยหลอกลวงต้มตุ๋น คุมตัวมาสอบ ฝ่ายหญิงอ้างศึกษาธรรมะ ดูดวงชะตา นั่งสมาธิจนเข้าทรงได้ กระทั่งไปเจอรู้จักกับพระลาว เลยชวนมาอยู่ที่บ้าน เปิดเป็นสำนัก คอยให้คำปรึกษาและจัดคิว ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงจะมาบนบานขอให้ได้ผัวฝรั่ง ไปทำงานต่างประเทศ คนที่สมหวังเลยจัดมหรสพมาแก้บนเกือบทุกคืน เบื้องต้นเอาผิดได้แค่ข้อหาให้ที่พักพิงต่างด้าว ส่วนคดีต้มตุ๋นต้องรอให้เจ้าทุกข์มาแจ้ง
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ม.ค. พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.อุดรธานี
ได้รับการร้องเรียนว่า ที่บ้านเลขที่ 124/1 หมู่ 4 บ้านหนองฮาง ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ดัดแปลงบ้านพักเป็นอาศรม มีร่างทรงเป็นคนไทย และมีพระลาว เป็นที่ปรึกษาด้านคาถาอาคม น่าจะเป็นการหลอกลวงต้มตุ๋น และกลางคืนยังมีมหรสพอยู่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน บริเวณศาลเจ้าปู่หนองจอก สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน หลังได้รับการร้องเรียนจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รองผกก.กลุ่มงานสืบสวนภูธร จ.อุดรธานี และ พ.ต.ต.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ สว.กลุ่มงานสืบสวน นำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นคอนกรีต ชั้นบนเป็นไม้แบบเรือนไทยภาคอีสาน
มีห้องพระ ตั้งโต๊ะหมู่บูชา จุดธูปเทียน ควันฟุ้งไปทั่วห้อง มีร่างทรงเป็นหญิงสาวสวมชุดขาวทำพิธีกรรมไหว้พระอยู่ในห้อง สอบถามทราบชื่อว่านางพิมล พิมพ์สกุล อายุ 48 ปี เป็นเจ้าของบ้าน และในห้องพระบริเวณชั้น 2 ด้านหลังสุดของตัวบ้าน มีพระภิกษุพักอาศัยอยู่ ตรวจสอบทราบชื่อว่า พระพุทธสอน ละครคำ อายุ 36 ปี เป็นพระลูกวัดจากวัดป่าหนองโมง ต.ด่านช้าง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา และยังพบหนังสือเดินทางของประเทศลาว ระบุชื่อ นายพุทธสอน ละครคำ อายุ 36 ปี อยู่บ้านหนองแต่ง เมืองสีโคตรตะบอง แขวงกำแพงนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว
จับร่างทรงสาว เปิดสำนักพิลึก
จากการสอบสวนนางพิมลให้การว่า ก่อนหน้านี้แต่งงานอยู่กินกับนายสามารถ พิมพ์สกุล เป็นนายช่างอยู่องค์การโทรศัพท์อุดรธานี
ประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในมดลูก ได้รับการผ่าตัดแต่ไม่ทุเลา จึงตัดสินใจไปทำบุญตามวัดต่างๆ กระทั่งไปพบพระพุทธสอน ที่วัดโคกหัวโพธิ์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากศึกษาธรรมะ ดูดวงชะตา นั่งสมาธิ เข้าทรงกับเจ้าปู่ได้ จึงชักชวนกันมาอยู่ที่บ้านพัก โดยให้เป็นที่ปรึกษาคอยจัดคิวผู้ที่ต้องการมาเข้าทรง อีกทั้งพระพุทธสอน มีความรู้เรื่องช่างไฟฟ้า และก่อสร้าง จึงมาควบคุมการต่อเติมบ้านให้ด้วย และอยู่ด้วยกันมาประมาณ 1 ปี ตนพักอยู่ชั้นล่างกับญาติๆ ส่วนสามีไปๆ มาๆ ที่บ้าน ส่วนพระอยู่ที่ชั้น 2 ในห้องพระ ใกล้กับห้องที่ใช้เป็นร่างทรง
นางพิมล ให้การต่อว่า แต่ละวันจะมีชาวบ้านที่มาขอช่วยให้เป็นร่างทรงของหลวงปู่หนองจอก ที่สิงสถิตอยู่บริเวณท้ายหมู่บ้าน
ใครมาบนบานขออะไรก็ได้ดั่งใจ เลยมีคนมาบนบานกันทุกวัน ส่วนมากแล้วจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปก็มีคนมาขอให้เป็นร่างทรง ขอหลวงปู่ให้ได้สามีเป็นชาวต่างประเทศ หลายคนได้สามีชาวต่างประเทศ มีฐานะดีขึ้น จะมาแก้บนด้วยการจ้างหมอลำ มาแสดงให้ชาวบ้านดูกันที่บริเวณใกล้ศาลหลวงปู่หนองจอก โดยเรียกเก็บค่าเข้าทรงเพียงครั้งละ 24 บาท จะมีดอกไม้ธูปเทียนบูชา
ด้านพระพุทธสอน ให้การว่า เดิมบวชอยู่ที่ประเทศลาว ที่วัดบ้านหนองด้วง
และเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา บวชที่วัดป่าประชาธรรมนิคม ต.ด่านช้าง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา แต่ไปจำพรรษาที่วัดป่าหนองโมง อยู่ใกล้ๆ กัน รู้จักกับนางพิมลมาประมาณ 2 ปี จึงชวนมาอยู่ด้วย โดยนางพิมลทำหน้าที่เป็นร่างทรงปู่หนองจอก พ.ต.ท.ณัฐนนท์ เปิดเผยภายหลังการสอบสวนว่า ในเบื้องต้นแจ้งข้อหาให้ที่พักพิงคนต่างด้าว แก่นางพิมล ส่วนพระพุทธสอนแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาวพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย เกินกว่าเวลากำหนด
ส่วนเรื่องบวชถูกต้องหรือไม่นั้น คงต้องตรวจสอบอีกที และเรื่องเข้าข่ายการหลอกลวงต้มตุ๋นหรือไม่นั้น จะต้องมีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้