แชมป์ซีเกมส์ซิ่งชน แม่ไปด้วยคอหักดับ

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. พ.ต.ท.นัฐพล นามนรเศรษฐ สารวัตรเวร สภ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 ม.ค. ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งชนต้นไม้ข้างทาง ถนนสายวังพิกุล-บึงสามพัน กม.ที่ 7-8 บ้านใหม่สุขเจริญ หมู่ 13 ต.วังพิกุล จึงไปตรวจสอบ

พบรถเก๋งมาสด้า 3 สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศส 2588 กรุงเทพมหานคร สภาพรถด้านซ้ายอัดก๊อบปี้กับต้นไม้ข้างทางอย่างแรงจนตัวถังยุบเป็นรูปตัววี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกช่วยเหลือนำส่ง รพ.บึงสามพัน แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อนางหล่ำ โมกขุนทด อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 หมู่ 6 ต.ปากหมาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี สภาพศพคอหัก สอบสวนนายเทพพร โมกขุนทด อายุ 31 ปี คนขับรถ เป็นลูกชายผู้ตาย ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายเล็กน้อยให้การว่า เป็นนักกีฬาลีลาศ 3 เหรียญทองการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุช่วงวันหยุดปีใหม่ ขับรถพามารดาพร้อมด้วย น.ส.ทัศนีย์ โมกขุนทด น้องสาว เดินทางมาดูที่ดินและเยี่ยมญาติที่ ต.วังพิกุล ขากลับมารดานั่งเบาะหน้าคู่คนขับ ส่วนน้องสาวนั่งเบาะหลัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีผู้หญิงคนหนึ่งขี่รถ จยย.ไม่ทราบทะเบียน เลี้ยวตัดหน้ากะทันหัน ด้วยความตกใจจึงหักพวงมาลัยหลบพร้อมแตะเบรก ทำให้รถเสียหลักพุ่งลงข้างทางและตัวถังรถด้านซ้ายอัดเข้ากับต้นไม้อย่างแรง เป็นเหตุให้ มารดาเสียชีวิตดังกล่าว
 

ต่อมาช่วงเที่ยงวันที่ 5 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 5 ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนางหล่ำ โมกขุนทด บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติๆ

โดยเฉพาะนายเทพพร โมกขุนทด ที่ขับรถชนต้นไม้จนมารดาเสียชีวิต ยังอยู่ในอาการซึมเศร้าอย่างหนัก เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า ก่อนออกเดินทางกลับมีลางไม่ค่อยดี เพราะแม่ไปร่ำลาญาติๆและควักเงินในกระเป๋าแจกพร้อมพูดว่า ไม่รู้จะได้กลับมาพบกันอีกหรือเปล่า นอกจากนี้ยังมีญาติคนหนึ่งทักว่าขับรถให้ระวัง เพราะเมื่อคืนฝันเห็นตนและแม่เดินเข้าบ้านตัวเอง และได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้เดินตามหลังมา แต่ก็ไม่ได้นึก เอะใจอะไร จนมาเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว  นายเทพพรกล่าวถึงประวัติชีวิตของตัวเองว่า เกิดที่ จ.เพชรบูรณ์ หลังเรียนจบชั้นมัธยมที่ ร.ร.วังพิกุลวิทยาคม พ่อแม่ย้ายไปอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนตนศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยความชื่นชอบในกีฬาลีลาศ จึงไปเข้าเป็นสมาชิกชมรมลีลาศของมหาวิทยาลัย หมั่นฝึกฝน จนเก่งขึ้นเรื่อยๆทางชมรมได้ส่งตัวไปยังสมาคมกีฬาลีลาศแห่งประเทศไทย ฝึกซ้อมอย่างจริงจัง พร้อมทั้งส่งเข้าแข่งขันกีฬาลีลาศชิงแชมป์ประเทศไทย สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ 4 ปีซ้อน คือเมื่อปี 46-49 ในรุ่นแสตนดาร์ด จังหวะบอลรูม (รุ่นใหญ่)


นอกจากนี้ยังเคยเดินทางไปแข่งขันกีฬาลีลาศระดับเอเชียและยุโรปหลายครั้ง โดยเมื่อปี 48 ไปแข่งขันลีลาศกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ตำแหน่งที่ 4

และล่าสุดกีฬาซีเกมส์ที่ จ.นครราชสีมา ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดเมื่อเต้นคู่กับ น.ส.จรูญรัตน์ สินเจริญ สามารถคว้าได้ถึง 3 เหรียญทองกีฬาลีลาศประเภทแสตนดาร์ด จากจังหวะวอลซ์ เวียนนีสวอลซ์ และสโลว์ฟอกซ์ทรอท สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ตั้งใจมาดูที่ดินที่ ต.วังพิกุล เพื่อจะย้ายครอบครัวกลับมาอยู่กับญาติๆที่นี่ แต่เมื่อมาเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันแบบนี้ คงจะต้องรอปรึกษาพ่อก่อน


ทางความคืบหน้าด้านคดี พ.ต.ท.นัฐพล นามนรเศรษฐ สารวัตรเวรเจ้าของคดี เผยว่า จะต้องสอบปากคำพยานอย่างละเอียดว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยหรือประมาท นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวคนที่ขี่รถ จยย. ตัดหน้ามาสอบสวนด้วย ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาต่อนายเทพพรคงต้องรอให้จัดการงานศพมารดาให้เรียบร้อยก่อนจึงจะเชิญมาสอบปากคำอีกครั้ง


ด้านนายสิทธิชัย ปรียาดารา เลขาธิการสมาคมลีลาศแห่งประเทศไทย กล่าวว่า

นายเทพพรเป็นคนที่มีนิสัยใจคอดี ขยันฝึกซ้อมทุ่มเทให้กับการแข่งขัน และมีความกตัญญูเป็นอย่างมาก เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักกีฬารุ่นน้องๆ โดยเฉพาะล่าสุดในซีเกมส์ครั้งที่ 24 ก็ช่วยทัพนักกีฬาไทยคว้ามาได้ถึง 3 เหรียญทอง ได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 6 แสนบาท โดยเจ้าตัวตั้งใจว่าจะนำไปสร้างบ้านให้กับมารดาที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ก่อน ถือเป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง ทั้งนี้สมาคมลีลาศฯและเพื่อนร่วมทีมชาติของนายเทพพร ทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คงจะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เนื่องจากนายเทพพรเป็นนักกีฬาที่อยู่ในความดูแลและทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมามากมาย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์