ภาพเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นธนาคารกรุงศรี อยุธยา สาขาบางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิด เป็นเหตุระทึกที่ทุกคนให้ความสนใจเพราะคนร้ายลงมืออย่างอุกอาจหาญดวลปืนตำรวจ ราวกับในหนัง
แต่สุดท้ายโจรปล้นแบงก์ก็เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณ
การตัดสินใจจับตายคนร้ายรายนี้ เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจยิงเพราะคนร้ายมีปืนอยู่ในมือ บุกจี้รถปิกอัพที่ติดเครื่องอยู่ใกล้ๆ เพื่อเตรียมหลบหนี แถมยังพยายามยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี
เมื่อตัดสินใจแบบนี้จึงต้องพบกับจุดจบ!!
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 27 ธ.ค. พ.ต.ท.ทรงพล สุขกลึงมี สารวัตรเวรสภ. บางใหญ่ จ.นนทบุรี รับแจ้งจากด.ต.ฐาปณา เทพพานิช ผบ.หมู่งานจราจร สภ.บางใหญ่ และส.ต.ท.สุดจิตร เลียงผา ผบ.หมู่งานสายตรวจ สภ.บางใหญ่ ว่า ได้วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายปล้นธนาคาร เหตุเกิดบนถนนรัตนาธิ เบศร์ขาเข้าเชิงสะพานพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี จึงรายงานพล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภาค1, พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง, พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รอง ผบช.ภาค 1, พล.ต.ต.ปริญ ญา จันทร์สุริยา ผบก.ภ.นนทบุรี, พ.ต.อ.สำ เริง งามรัตน์ ผกก.สภ.บางใหญ่ กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชร.พ.ธรรมศาสตร์
รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุอยู่กลางถนนใกล้ทางขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า พบรถปิกอัพ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กฉ-3299 นครปฐม จอดชนท้ายรถแท็กซี่ทะเบียน มจ-60 กทม. ภายในรถปิกอัพบริเวณที่นั่งคนขับ พบร่างนายสมชาย ลิวง อายุ 29 ปี สัญชาติลาว ซึ่งเป็นคนร้ายถูกยิงที่ศีรษะและลำตัว 6 นัด ในรถพบอาวุธปืนตกอยู่ มีกระเป๋าเดินทางวางอยู่เบาะซ้ายด้านหน้า หลังรถพบหมวกไหมพรม 1 ใบ ในรถพบเงินสด 672,000 บาท ที่ปล้นมาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบางใหญ่ ถ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภาพนาทีระทึก-จับตาย! วิสามัญโจรปล้นแบงก์
ในที่เกิดเหตุมีนายอภิชาติ สุวรรณวงศ์ อายุ 50 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ที่ถูกชนท้าย ยืนรอให้การกับตำรวจด้วยอาการตื่นตระหนก
นอก จากนี้ ยังมีนายบุญรอด กันต่าย อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 17 ม.9 ต.บางคูรัด อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี อาชีพรับจ้าง เจ้าของรถปิกอัพที่คนร้ายขับมาพร้อมด้วยน.ส.บุญญิตา กันต่าย อายุ 22 ปี บุตรสาวเดินทางมาสมทบ ซึ่งทั้งคู่ละล่ำละลักเล่าว่าเพิ่งถูกคนร้ายชิงรถมาจากหน้าธนาคารที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิดำเนินการเกี่ยวกับศพ ก่อนจะพาผู้เสียหายทั้งหมดไปสอบปากคำต่อไป
พยานเล่าว่า
ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ธนาคารเพิ่งเปิดทำการ ระหว่างนั้นนายสมชาย คนร้าย สวมหมวกไหมพรมหิ้วกระเป๋าเดินเข้ามาในธนาคาร ตรงเข้าไปที่เคาน์เตอร์ด้านในซึ่งเป็นโต๊ะทำงานของนางกนกทิพย์ รอดแป้น หัวหน้าการเงิน ชักปืนออกมาขู่พร้อมกล่าวว่า
"มีเงินเท่าไรเอามาให้หมด ถ้าไม่ให้เงินทุกคนเดือดร้อน"
นางกนกทิพย์ จึงยอมหยิบเงินในตู้เซฟเล็กของธนาคารที่เตรียมไว้ให้ลูกค้าหน้าเคาน์เตอร์ให้ไป โดยพยายามพูดถ่วงเวลาคนร้าย และกดสัญญาณแจ้งเหตุไปที่โรงพัก เมื่อได้เงินแล้วคนร้ายจึงนำใส่กระเป๋าเดินทางล็อกกุญแจก่อนวิ่งหนีออกไปทันที
พยานเล่าต่อว่า
จังหวะนั้นคนร้ายได้วิ่งออกมาเจอนายวันชัย รอดบุญเสริม อายุ 47 ปี รปภ.ประจำธนาคารที่อำนวยการจราจรอยู่ด้านหน้า ซึ่งสังเกตเห็นพนักงานวิ่งหน้าตาตื่นออกมา ตะโกนบอกว่าคนร้ายปล้นธนาคาร
นายวันชัยจึงวิทยุแจ้งเหตุให้ตำรวจทราบและชักปืนออกมาเตรียมไว้ เมื่อเผชิญหน้ากับคนร้ายก็ขู่ให้หยุด พร้อมยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด แต่คนร้ายกลับถือปืนขู่กลับมาพร้อมตะโกนบอกว่า "พี่อย่ายุ่ง พี่อยากตายไหม" ก่อนวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่โตโยต้า ลิโม่ สีส้ม ทะเบียน ทย-6638 กทม. ซึ่งมีนายสมเจตน์ ปัญสวัสดิ์ อายุ 58 ปี เป็นคนขับ ใช้ปืนจี้บังคับให้พาหลบหนี แต่นายสมเจตน์ไม่ยอมไปคนร้ายจึงตัดสินใจลงจากรถวิ่งไปขึ้นรถปิกอัพ 4 ประตูของนายบุญรอดที่จอดติดเครื่องอยู่ใกล้กันขับหลบหนีออกมาจากธนาคาร
ทุกภาพเหตุการณ์ถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิด!!
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะคนร้ายขับรถปิกอัพหลบหนีเป็นช่วงที่นายอภิชาติ โชเฟอร์แท็กซี่อีกคันเห็นเหตุการณ์พอดี จึงตัดสินใจขับรถติดตาม ซึ่งขณะเดียวกันด.ต.ฐาปณา และส.ต.ท.สุดจิตร 2 ตำรวจสายตรวจได้รับแจ้งเหตุเดินทางมาถึงธนาคาร เมื่อทราบรายละเอียดจึงขับรถไล่อีกคัน
ช่วงที่มีการไล่ล่าคนร้ายอย่างกระชั้นชิด จนใกล้ถึงทางขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าซึ่งมีการจราจรติดขัด นายอภิชาติสังเกตเห็นตำรวจไล่ตามหลังมา จึงตัดสินใจเร่งเครื่องแซงขึ้นหน้ารถคนร้ายแล้วเหยียบเบรกเพื่อให้คนร้ายชนหลัง โดยดึงเบรกมือและเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีลงไปข้างทาง
ขณะที่นายสมชายกำลังนั่งงงอยู่ในรถ ตำรวจ 2 นายไล่ตามมาถึง ส.ต.ท.สุดจิตรตรงเข้าไปเปิดประตูด้านผู้โดยสารใช้ปืนขู่เพื่อให้คนร้ายยอมจำนน ขณะที่ด.ต.ฐาปณา ยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลังรถ
คนร้ายเห็นตำรวจก็ยิงใส่ทันที แต่ส.ต.ท.สุดจิตร ซึ่งระวังตัวอยู่แล้วโดดหลบทัน ด.ต.ฐาป ณาที่อยู่ด้านหลังจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงทะลุกระจกหลังเข้าไปราวๆ 10 นัดถูกคนร้ายเสียชีวิตคาที่
หลังทุกอย่างยุติลงด้วยความตาย พล.ต.ท.รชตสั่งตรวจสอบประวัตินายสมชายพบว่าเป็นคนลาวเข้ามาทำงานในเมืองไทยได้ประมาณ 3 ปีแล้ว มีภรรยาชื่อน.ส.ดวงพร บุญยศ ซึ่งเป็นชาวลาวด้วยกัน
ก่อนหน้านี้นายสมชายทำงานอยู่ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าซอยสุขุมวิท 63 ต่อมาย้ายมาทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายของชำในตลาดบาง ใหญ่ได้ประมาณ 6 เดือน ซึ่งที่ผ่านมานายสมชายมักจะบ่นกับภรรยาถึงเรื่องปัญหาพี่น้องที่ประเทศลาวและปัญหาเงินไม่พอใช้
สุดท้ายจึงตัดสินใจก่อเหตุร้ายปล้นธนาคาร
ก่อนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมจนได้!?!