ยิงนายกอบต. ดับคางานศพ!

เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 3 ม.ค. พ.ต.ท.อรุณ จันทร์พูล สารวัตรเวร สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่วัดพระอาสน์ หมู่ 5 ต.ไทยบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิสิทธิ์ ฤทธิแผลง ผกก. พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท. ประเสริฐ นางคง สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง สว.กลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ๊งท่าศาลา
 

ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆหลายร้อยคน

บริเวณลานวัดข้างศาลาหน้าเมรุเผาศพ พบศพนายนครศรีธรรมราช อายุ 53 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 27 หมู่ 5 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และเป็นนายก อบต.ไทยบุรี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าหนังสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน 9 มม. เข้าขมับซ้ายฝังใน 1 นัด แก้มซ้ายทะลุ 1 นัด ไหล่ซ้ายฝังใน 1 นัดชายโครงขวาฝังใน 1 นัด และหน้าอกฝังในอีก 1 นัด รวม 5 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่เกลื่อนจำนวน 6 ปลอก 

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเดินทางไปเป็นประธานเผาศพนายดำรงค์ หรือดำ เอียดเหตุ อายุ 64 ปี ประธานซอยปลักจอก

ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันที่ป่วยเสียชีวิต มีชาวบ้านและญาติผู้ตายมาร่วมงานหลายร้อยคน หลังนายจำรัสขึ้นไปทอดผ้ามหาบังสุกุลแล้วก้าวลงจากเมรุจะเดินทางกลับ โดยเดินไปจะขึ้นรถปิกอัพมิตซูบิชิ แลน-เซอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บน 131 นครศรีธรรมราช ซึ่งจอดอยู่ห่างกันไม่มาก ขณะผ่านหน้าศาลาใกล้จะถึงรถถูกคนร้ายที่ปะปนมากับผู้คนปราดเข้าไปหา พอได้จังหวะชักปืนพกยิงถล่มไม่ยั้งมือ 6 นัดซ้อน ล้มดิ้นพราดเสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้านที่มาร่วมงานพากันวิ่งหนีโกลาหล หลังมั่นใจในผลงานคนร้ายรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่พวกติดเครื่องรออยู่ขี่หลบหนีไปตามถนนสายท่าศาลา-นบพิตำ ตำรวจวิทยุสกัดจับ แต่ไร้วี่แวว
 

ขณะที่แนวทางการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นคนมีชื่อเสียงในพื้นที่
 
นอกจากเป็นนักการเมืองท้องถิ่นแล้วยังทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัยรายใหญ่ โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษ์เป็นลูกค้าว่าจ้างยามของบริษัทผู้ตาย ดูแลความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยผูกขาดมานานหลายปี นับเป็นผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง และในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ผู้ตายเป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัครรายหนึ่งแต่สอบตก จนมาถูกยิงถล่มดับคางานเผาศพเพื่อนบ้านต่อหน้าผู้คนดังกล่าว 

พ.ต.อ.วิสิทธิ์ ฤทธิ์แผลง ผกก.กล่าวว่า

สำหรับสาเหตุตอนนี้มุ่ง 2 ประเด็นคือ ขัดผลประโยชน์ธุรกิจรับเหมาต่างๆในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ หลังทราบว่าผู้ตายมีบริษัทชุมชนพัฒนา จำกัด รับเหมางาน รปภ.งานปรับภูมิทัศน์ และงานเก็บขยะในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มานานแล้ว โดยวงเงินรับเหมางาน รปภ.ราว 24 ล้านบาท ขณะที่งานรับเหมางานอื่นๆ อีกหลายล้านบาท รวมแล้วเป็นเงินหลายสิบล้านบาท โดยงานรับเหมาทั้งหมดจะหมดสัญญาในวันที่ 30 ก.ย.2551 นี้ อาจจะทำให้คู่แข่งทางธุรกิจวางแผนเก็บเพื่อเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์มหาศาลภายในมหาวิทยาลัยก็ได้ ส่วนอีกประเด็นคือขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ซึ่งจะได้สอบสวนคลี่คลายคดีให้แน่ชัดอีกครั้ง