วันนี้ (30 ธ.ค.) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยสถาบันการเงินที่ลดต่ำลงปีนี้ เชื่อว่าในปี 2551 คงไม่แตกต่างจากเดิมนัก จึงอยากเตือนประชาชนให้ระวังการถูกหลอกลวงให้ไปลงทุนในรูปแบบของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งคาดว่าจะยังมีอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากปลายปีนี้ แชร์ลูกโซ่หลายวงได้ทยอยปิดบริษัทและขนเงินหนี ในปีหน้าเชื่อว่ารูปแบบจะเปลี่ยนแปลงไปจากแชร์ข้าวสาร หรือแชร์เครื่องอุปโภคบริโภค เป็นแชร์ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งดีเอสไอตรวจพบมีเกือบ 100 เว็บไซต์ ที่มีรูปแบบแชร์ลูกโซ่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนระวังถูกหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต
"เห็นได้จากการชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน หรือการประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ว่า "คุณคือผู้โชคดี" แล้วให้โอนเงินไปร่วมลงทุน เป็นต้น ในระยะแรกอาจได้ผลตอบแทน แต่มักเป็นผลตอบแทนในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งการนำผลตอบแทนบนหน้าคอมฯ ไปเปลี่ยนเป็นเงินจะทำได้อย่างไร" พ.อ.ปิยะวัฒก์กล่าว
ทั้งนี้ พ.อ.ปิยะวัฒก์ แนะนำว่าหากพบมีการชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยจ่ายผลตอบแทนเป็นรายวันและให้ผลตอบแทนสูงมาก ขอให้ระวังและอย่าหลงเชื่อ ขอให้แจ้งข้อมูลมายังดีเอสไอ เพื่อตรวจสอบและอายัดเงินที่เคลื่อนไหวในระบบของแชร์วงดังกล่าวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก
ผบช.สำนักคดีอาญาฯ ยังเปิดเผยว่า ดีเอสไออยู่ระหว่างติดตามเจ้าของเว็บไซต์หนึ่งที่เข้าข่ายผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ พบว่ามีเครือข่ายจัดทำเว็บไซต์ร่วมกับชาวต่างชาติ จดทะเบียนในไทย และมีวิธีการฉ้อโกงประชาชนด้วยการระดมทุนผ่านเว็บไซต์หนึ่ง เมื่อได้เงินจำนวนมากแล้วก็ปิดเว็บนี้ไปเปิดเว็บใหม่ และหลอกลวงประชาชนอีก สำหรับมูลค่าความเสียหายของแชร์ลูกโซ่บนเว็บไซต์ คาดว่าแต่ละวงไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท