ขืนใจแม่ลูก 2 ส่อพิรุธกุเรื่องขึ้นมาเอง

จากกรณีที่ นางแหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.อ.ทุ่งสง ว่าเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะกำลังนอนหลับอยู่กับลูกน้อย 2 คนวัย 3 ขวบ และ 1 ขวบ โดยที่สามีไม่อยู่บ้าน ได้ถูกคนร้ายสวม ไอ้โม่ง 3 คน บุกเข้ามาในบ้านพัก ใช้อาวุธปืนทุบตีทำร้ายและบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนพากันหลบหนีไปนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ท. บุญมี ศิริปาลกะ รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.ทุ่งสง ผู้ควบคุมคดีนี้ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ได้เชิญตัวนางแหม่มมาสอบปากคำเพิ่มเติม อีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุและเบาะแสของคนร้าย ประกอบกับจากการสอบปากคำสามีของนางแหม่ม ให้การว่า ไม่เชื่อว่าภรรยาตัวเองจะถูกคนร้ายบุกเข้ามาข่มขืนถึงในบ้านจริง โดยระบุว่าในอดีตนางแหม่มเคยทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ ในร้านอาหาร มาก่อน ทำให้มีผู้ชายมาติดพันและชอบพอ หลายคน อย่างไรก็ตามนางแหม่มก็ได้มาอยู่กินกับสามีคนปัจจุบันและมีลูกด้วยกันสองคน พร้อมกับเลิกทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ

ต่อมาเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน นางแหม่มถูกสามีจับได้ว่าแอบมีชู้ แต่ในที่สุดสามีก็ยอมให้อภัยและขอร้องให้เลิกติดต่อกับชายชู้อีก กระทั่งนางแหม่มได้เข้าแจ้งความว่าถูก 3 คนร้ายบุกเข้าข่มขืนดังกล่าว ซึ่งจากคำให้การของนางแหม่ม ในบางประเด็นขัดแย้งกับคำให้การของผู้เป็นสามี โดยเฉพาะประเด็นที่นางแหม่มอ้างว่าขณะถูกข่มขืน คนร้ายใส่ถุงยางอนามัย แต่ทางด้านของสามีระบุว่า ตอนที่ภรรยาเล่าให้ฟังว่าถูกข่มขืนนั้นตนเองไม่เชื่อ จึงให้ภรรยาแก้ผ้าให้ดู ก็พบว่าที่อวัยวะเพศและบริเวณหน้าขาทั้งสองข้างมีคราบอสุจิเปรอะเปื้อนอยู่ทางสามีจึงท้าว่าถ้าถูกข่มขืนจริงก็ให้ไปแจ้งความนางแหม่มจึงยอมเข้าแจ้งความดังกล่าว

พ.ต.ท.บุญมี เปิดเผยอีกว่า จากการสอบปากคำล่าสุดนางแหม่มยังคงยืนกรานว่าถูกคนร้ายข่มขืนจริง แม้ว่าตำรวจจะพบข้อพิรุธดังกล่าว ประกอบกับเมื่อตำรวจบอกว่าจะขอไปตรวจสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะ ขนเพชร ของคนร้ายที่อาจตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่กลับถูกนางแหม่มบ่ายเบี่ยง และอ้างว่าหลังเกิดเหตุได้เก็บกวาดไปหมดแล้ว อีกทั้งจากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง ก็บอกตรงกันว่า ในคืนเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินเสียงร้อง หรือเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด ทำให้ทางตำรวจเกิดความ สงสัยเป็นอย่างมาก ว่านางแหม่มอาจกุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกสามี ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง หากพบว่าเป็นการแจ้งความเท็จก็จะต้องดำเนินคดีกับนางแหม่มต่อไป.