ไฟไหม้มังกรเติ้ง ลือเป็นลางร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. พ.ต.ท.ประสาน หอมชื่น สารวัตรเวร สภ.เมืองสุพรรณบุรี

แจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถนนไร่ฝ้าย ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงพร้อมด้วยนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวล ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผกก. เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ และรถดับเพลิงเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี จำนวน 10 คัน ไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุเป็นอาคารอยู่ในระหว่างก่อสร้าง เป็นรูปมังกรขนาดใหญ่กำลังเลื้อย

มีความสูงเท่ากับตึก 10 ชั้น และมีความยาว 80 เมตร พบควันไฟพวยพุ่งออกมาจากกลางลำตัวมังกร และในส่วนที่เป็นก้อนเมฆ ซึ่งทั้งหมดก่อสร้างด้วยไฟเบอร์กลาส หรือเรซิ่น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำสกัดไฟนานกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ น.ส.น้ำค้าง งามศิริ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ถนนประชาอุทิศ ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่างก่อสร้างที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุทำงานโป๊วสีอยู่ด้านนอกอาคาร บริเวณกลางลำตัวมังกร จู่ๆ เห็นควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากก้อนเมฆข้างลำตัวมังกร จึงตะโกนเรียกเพื่อนคนงานให้มาช่วยกันดับไฟ แต่ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากวัสดุที่ใช้สร้างมังกรเป็นเรซิ่น ซึ่งไวไฟเป็นอย่างมาก เมื่อไม่สามารถดับได้ จึงรีบแจ้งให้ตำรวจทราบ
 

หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่าจุดที่ตั้งตู้เชื่อมไฟฟ้าด้านในตัวมังกร มีร่องรอยไฟไหม้เป็นบริเวณกว้างกว่า 5 เมตร และยาวกว่า 20 เมตร

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากตู้เชื่อมไฟฟ้า แล้วลุกลามขึ้นไปไหม้วัสดุไฟเบอร์กลาส หรือเรซิ่น ที่ก่อสร้างเป็นก้อนเมฆบริเวณด้านข้างของลำตัวมังกร มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่วิทยาการอีกครั้ง จึงจะสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาคารรูปมังกรหลังนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นผู้ริเริ่มให้ก่อสร้างขึ้น

เนื่องจากอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้มีเชื้อสายชาวจีน และมีความเลื่อมใสศรัทธาศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีเป็นอย่างมาก ก่อนการเลือกตั้ง หรือจะทำงานใหญ่ทุกครั้ง นายบรรหารจะเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และจุดประทัดนับหมื่นดอกถวายให้เจ้าพ่อศาลหลักเมืองเป็นประจำ ประกอบกับนายบรรหารมีฉายาในทางการเมืองว่า “มังกรเติ้ง” ดังนั้น จึงต้องการก่อสร้างอาคารรูปมังกรเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ และตั้งใจไว้ว่าเมื่อก่อสร้างเสร็จ จะเป็นมังกรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 200 ล้านบาท ภายในอาคารจะจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์เมืองสุพรรณบุรี และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดด้วย
 

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ตัวมังกรขึ้น ชาวสุพรรณบุรีต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา

ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจจะเป็นลางร้าย ทำให้นายบรรหารและพรรคชาติไทยไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล หลังจากนายบรรหารเคยพลาดท่าสะพานหักตกน้ำครำ ขณะไปช่วยลูกพรรคหาเสียงย่านดอนเมืองมาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนเชื่อว่าเป็นการ ฟาดเคราะห์ เพราะนายบรรหารมีความผูกพันกับมังกรตัวนี้อย่างมาก หากมีเวลาเดินทางกลับมา จ.สุพรรณบุรี นายบรรหารจะต้องแวะมาดูแลควบคุมงานก่อสร้างมังกรด้วยตนเองทุกครั้ง จึงเชื่อว่าการเกิดเพลิงไหม้มังกรครั้งนี้ จะทำให้เหตุร้ายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับนายบรรหารหมดไป เรื่องร้ายจะกลายเป็นดี เพราะมังกรได้มารับเคราะห์ แทนนายบรรหารไปจนหมดแล้ว