โจ๋ทมิฬเมืองตากก่อเหตุฆ่า-ข่มขืนน.ศ. สาวเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา หมกศพในป่าริมถนน
ตะลึงอยู่ระหว่างหนีคดีฆ่าข่มขืนหมอนวดแผนไทยประจำร.พ. อีกศพด้วย ตร.สืบจากโทรศัพท์มือถือของเหยื่อที่คนร้ายนำไปขาย จนสาวถึงตัวและล่าเพื่อนร่วมแก๊งได้ครบ 3 คน แฉประวัติสุดโฉดต้องคดีข่มขืนมาอื้อ ล่าสุดเพิ่งประกันตัวคดีข่มขืนสาววัย 15 ปี แล้วมาก่อเหตุฆ่าน.ศ.สาวซ้ำอีก เผยใช้แผนชั่วทำทีเป็นรถเสียกลางถนน แล้วโบกเรียกเหยื่อทั้ง 2 ราย ให้ช่วยเหลือ สบโอกาสลากเข้าป่าทุบหัวและรัดคอก่อนขืนใจ จากนั้นปลดทรัพย์สินแล้วสวมใส่เสื้อผ้าให้ศพอำพรางคดี
จากกรณีพบศพน.ส.สุพัตรา มั่งคำ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา(มทร.)
วิทยาเขตตาก ถูกคนร้ายลงมือสังหารทิ้งศพในสวนป่าสักทอง บ้านสระทอง หมู่ 8 ต.สมอโคน อ.บ้านตาก จ.ตาก เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา สภาพศพถูกทุบตีด้วยของแข็งทรัพย์สินหายไปจนหมดนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ธ.ค.
พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ ผบช.ภาค 6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมาน พรมมา รองผบช.ภาค 6 พล.ต.ต. สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ รองผบช.ภาค 6 พล.ต.ต. ธารินทร์ จันทราทิพย์ ผบก.ตาก พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ พิมพ์พิสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองตาก และพ.ต.อ.วุฒิ วรรณคาวิสันต์ ผกก.สภ.บ้านตาก จ.ตาก ร่วมข่าวแถลงจับกุมนายธวัชชัย หรือหนึ่ง เกิดแก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/58 หมู่ 8 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก, นายชัยรัตน์ หรือยอด ณ ลำพูน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190 ต.หนองหลวง อ.เมือง จ.ตาก และนายสมชาย หรือนก โนนคล้อ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 885 ต.หนองหลวง อ.เมือง จ.ตาก ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนและชิงทรัพย์น.ส.สุพัตรา โดยนอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดีฆ่าข่มขืนนางณัฐวรรณ เตสุ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/2 หมู่ 4 ต.ตากออก อ.บ้าน ตาก จ.ตาก หมอนวดแผนไทย ประจำโรงพยาบาลบ้านตาก เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา
จากนั้นตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มจากคดีที่ 1
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.30 น. นายธวัชชัย ร่วมกับนายชัยรัตน์ ฆ่าข่มขืน นางณัฐวรรณ เตสุ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/2 หมู่ 4 ต.ตากออก อ.บ้านตาก จ.ตาก หมอนวดแผนไทย ประจำโรงพยาบาลบ้านตาก ที่บริเวณป่าละเมาะปากทางเข้าวัดวิเศษ หมู่ที่ 4 ต.สมอโคน อ.บ้านตาก แล้วชิงทรัพย์ได้แก่โทรศัพท์มือถือ และเงินสดของผู้ตายหลบหนีไป
ต่อมาคุมตัวทำแผนฯ ในคดีที่ 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
เวลา 14.00 น. นายธวัชชัย ร่วมกับนายชัยรัตน์ และนายสมชาย ฆ่าข่มขืนน.ส.สุพัตรา มั่งคำ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (มทร.) วิทยาเขตตาก แล้วหมกศพไว้ในป่าสักทอง บ้านสระทอง หมู่ที่ 8 ต.บ้านสมอโคน อ.บ้านตาก
หลังก่อเหตุนายธวัชชัย นำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายทั้ง 2 ราย
ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย ของนางณัฐวรรณ และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแอลจี ของน.ส.สุพัตรา ไปขายให้ร้านรับซื้อแลกเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งในตัวเมืองตาก ทางตำรวจจึงแกะรอยจนสามารถจับกุมตัวนายหนึ่งนำตัวมาสอบสวนขยายผล จนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือนายชัยรัตน์ และนายสมชาย
จากการสอบสวนนายธวัชชัย หัวหน้าแก๊ง ให้การรับสารภาพว่า
ร่วมกับนายชัยรัตน์ และนายสมชาย วางแผนออกล่าเหยื่อบนถนนพหลโยธิน ช่วงระหว่าง อ.เมืองตาก กับ อ.บ้านตาก ในช่วงเวลากลางวัน โดยเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาวขี่รถจักรยาน ยนต์มาคนเดียว โดยทำทีเป็นรถน้ำมันหมดหรือรถเสีย และจะโบกมือขอความช่วยเหลือเพื่อพาไปเติมน้ำมัน เมื่อสบโอกาสจะทำร้าย และฉุดเข้าไปในป่าข้างทาง ใช้ไม้ทุบเหยื่อจนหมดสติ จากนั้นรุมข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิตและปลดทรัพย์สิน ก่อนจะสวมเสื้อผ้าให้เหยื่อเพื่ออำพรางคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สำหรับนายชัยรัตน์ และนายสมชาย เคยก่อคดีข่มขืนอย่างโชกโชน หลังก่อเหตุฆ่าข่มขืนนางณัฐวรรณ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ขณะหลบหนีการจับกุม ยังก่อคดีทำร้ายร่างกายและฉุดข่มขืนหญิงสาว อายุ 15 ปี เหตุเกิดที่ริมแม่น้ำปิง กลางเมืองตาก และถูกจับกุมเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างประกันตัวต่อสู้คดีในชั้นศาล ก่อนจะมาก่อเหตุฆ่าน.ส.สุพัตรา กระทั่งมาถูกจับกุมอีกครั้ง
พล.ต.ท.วสันต์กล่าวว่า
ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเหี้ยมโหด ก่อคดีซ้ำซากไม่เกรงกลัวกฎหมาย ในส่วนของการป้องกันเหตุร้ายในพื้นที่เสี่ยง สั่งให้ทุก สภ.จัดกำลังตำรวจออกตรวจพื้นที่ในจุดเสี่ยงทุกชั่วโมง ส่วนคดีฆ่านักท่องเที่ยวสาวญี่ปุ่นที่ จ.สุโขทัย มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ รอง ผบช.ภาค 6 ลงพื้นที่ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นคดีที่ซับซ้อน จะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ