มือปาหินอ่างทองถูกหนุ่มเย็บ33 เข็มมอบตัว หลังยายโทรเกลี้ยกล่อม
สารภาพแค้นที่คนในกลุ่มเป็นมารหัวใจ ชอบเยาะเย้ยถากถาง ด้านคดีปาหินรถ 4 คันที่ปทุมธานียังไม่คืบ ผบช.ภ.1ลุยเรียกประชุมล่าตัว ส่วนพฤติกรรมปาหินลามกรุง มือบอนขว้างจากบนสะพานลอย ถูกฝากระโปรงท้ายรถ "คัมรี" เสียหาย ผบช.น.ชี้ฝีมือพวกคึกคะนองทำพฤติกรรมเลียนแบบ คดีคนร้ายปาหินใส่รถยนต์ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาแล้วหลายรายซึ่งที่ผ่านมามีทั้งจับกุมคนร้ายได้และบางรายคนร้ายยังลอยนวลอยู่นั้น
ล่าสุดมือปาหินที่ขว้างใส่รถยนต์ฮอนด้าทะเบียน กค 9114 ลพบุรี
ทำให้นายวสันต์ เสนาะจิต อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 3 ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ที่นั่งมาข้างคนขับได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ต้องเย็บ 33 เข็ม เหตุเกิดที่ถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ 2 ติดกับถนนสายผักไห่-ชันสูตร ต.บ่อแร่ อ.โพธิ์ทอง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมาเข้ามอบตัวแล้ว
เมื่อเวลา12.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ.พลชัย ตั้งมั่น ผกก.สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พร้อมตำรวจจำนวนหนึ่ง ควบคุมตัวนายวีรยุทธ์ กำบังไพร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/2028 หมู่ 9 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี มือปาหินที่ตกเป็นผู้ต้องหาทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ
นายวีรยุทธ์สารภาพว่า ก่อเหตุเพียงคนเดียว
เพราะมีเรื่องบาดหมางกับเพื่อนผู้บาดเจ็บคนหนึ่งที่นั่งมาในรถ เนื่องจากชอบผู้หญิงในหมู่บ้านคนเดียวกัน และเพื่อนผู้บาดเจ็บมักพูดจาถากถางอย่างรุนแรงหลายครั้ง ทำให้เกิดความอับอายและเสียศักดิ์ศรี วันเกิดเหตุขณะยืนอยู่ริมถนน เพื่อนผู้บาดเจ็บลดกระจกรถลงและตะโกนแซว จึงตัดสินใจนั่งรอและใช้อิฐบล็อกขว้างใส่ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่กรุงเทพฯ กระทั่งยายโทรศัพท์ไปเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว เหตุที่เกิดขึ้นเพราะบันดาลโทสะเท่านั้น
ส่วนกรณีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรใช้ก้อนหินปาใส่รถยนต์ที่วิ่งสวนทางมาได้รับความเสียหาย4 คัน และยังก่อกวนด้วยการถีบรถจักรยานยนต์ที่ขี่สวนทางมาจนล้มลง เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถ หน้าศูนย์รถยนต์มิตซูบิชิไทยแลนด์ หมู่ 11 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เมื่อเวลา11.30 น. วันที่ 19 ธันวาคม
พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 เดินทางมางยัง สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เรียกประชุมชุดสืบสวนร่วมระหว่าง สภ.คลองหลวง และ ศสส.ภ.จว.ปทุมธานี เพื่อสรุปแนวทางการสืบสวนและการติดตามคนร้ายกลุ่มนี้
พล.ต.ท.รชตกล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก
จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม สามารถประมวลเหตุการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ได้เบาะแสกลุ่มคนร้ายแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากความคึกคะนอง ไม่ใช่ประสงค์ต่อทรัพย์
ส่วนเหตุการณ์รายล่าสุดเกิดขึ้นที่ กทม. เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน
นายสัมพันธ์ วะรงค์ อายุ 50 ปี พ่อค้าขายเสื้อผ้าย่านพัฒนพงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 10/77 ซอยโชคชัย 4 แยก 44 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.มานิตย์ จันทร์ประสิทธิ์ สารวัตรเวร สน.พหลโยธิน ว่าถูกคนร้ายปาหินใส่รถยนต์โตโยต้า คัมรี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ชภ 4527 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
นายสัมพันธ์แจ้งว่า
หลังจากปิดร้านได้เดินทางกลับบ้านพักย่านโชคชัย 4 ระหว่างทางมาจอดติดสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว มุ่งหน้าไปบางกะปิ หลังสัญญาณไฟเขียวจึงขับรถออกไปได้ประมาณ 3-5 เมตร ก็ได้ยินเสียงคล้ายของแข็งตกลงมาจากบนสะพานลอยใส่รถ จึงขับเข้าไปตรวจสอบที่บริเวณปั๊มน้ำมันห่างไปประมาณ 20 เมตร
"ดูบนหลังคารถก็ไม่มีรอยอะไร แต่พอเดินไปดูที่กระโปรงท้ายก็เห็นรอยบุบจนสีรถกะเทาะ 2 รอย ผมเชื่อว่าน่าจะมีคนโยนก้อนหินลงมาจากบนสะพานลอย จึงวิ่งย้อนกลับไปดูบนสะพานก็ไม่เห็นใครแล้ว ผมเจ็บใจมาก เพราะรถคันนี้เพิ่งซื้อมาได้แค่ 3 เดือน" นายสัมพันธ์ ให้การต่อตำรวจด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
พ.ต.อ.อาคมจันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า
เบื้องต้นคาดว่า คนก่อเหตุน่าจะโยนของแข็งขนาดเล็กมาจากที่สูง หรือบนสะพานลอย มากระแทกถูกช่วงหลังของรถเป็นรอยบุบจนสีรถกะเทาะยาวประมาณ 1 นิ้ว จำนวน 2 รอย เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการก่อเหตุเพื่อหวังชิงทรัพย์ เพราะถ้าต้องการทำอย่างนั้น คนร้ายต้องอยู่ในที่ราบ ไม่ใช่อยู่บนที่สูง คาดว่าน่าจะเป็นพวกวัยรุ่นกลั่นแกล้งเพราะความคึกคะนองมากกว่า ซึ่งต้องตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในละแวกนั้นว่าบันทึกภาพคนร้ายได้หรือไม่
ขณะที่พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวว่า
ได้กำชับตำรวจทั้ง 88 สน.ให้เข้มงวดในการตรวจตราเพื่อป้องกัน เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงพฤติกรรมเลียนแบบ แต่หากจับกุมตัวได้จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเฉียบขาด และอยากฝากไปยังผู้ที่กระทำว่าอย่าทำเด็ดขาด รวมถึงฝากสื่อมวลชนช่วยประณามการกระทำดังกล่าวด้วย