เมื่อเวลา 01.20 น. วันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.ท.สุขุม ทองนุช สวส.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
รับแจ้งมีแก๊ง จยย. ดักขว้างก้อนหินใส่รถยนต์หลายคัน ริมถนนพหลโยธิน (ขาออก) หลัก กม.ที่ 45 ใกล้ทางเข้าบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด หมู่ 11 ต.คลองหนึ่ง รุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ. ปทุมธานี พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก. พ.ต.อ.ปรีดา เปี่ยมวารี ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ถนอมบุญ รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.อรุณ อัครธรรม สว.สส. ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่อาสาปทุมสัมพันธ์
ที่เกิดเหตุอยู่ในช่องทางคู่ขนาน พบผู้เสียหายยืนรออยู่ 4 ราย
รายแรกชื่อนายพีระพัฒน์ ลาจันทึก อายุ 36 ปี อยู่หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ขับรถแท็กซี่มิเตอร์ โตโยต้า รุ่นอัลติส ทะเบียน ทล 23 กรุงเทพมหานคร ยืนรอตำรวจโดยกระจกหน้ารถแตกร้าว รายที่ 2 นายวันวิวัฒน์ โกวิน อายุ 50 ปี อยู่หมู่ 19 ต.คลองหนึ่ง เจ้าของรถเก๋งวอลโว่ รุ่น 960 สีเขียว ทะเบียน ณข 315 กรุงเทพมหานคร กระจกหน้าแตกร้าวเกือบทะลุ รายที่ 3 นายณรงค์ฤทธิ์ โคตรโยธา อายุ 20 ปี อยู่ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เจ้าของรถแท็กซี่มิเตอร์ โตโยต้า รุ่นอัลติส ทะเบียน ทล 1784 กรุงเทพมหานคร กระจกมองข้างด้านซ้ายแตก และรายที่ 4 นายชาญณรงค์ ทวนจีน อายุ 22 ปี อยู่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เจ้าของรถปิกอัพอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียน กข 7320 นครนายก กระโปรงหน้ารถมีรอยยุบและพลาสติกกันแมลงหน้ารถแตกเสียหาย
ขว้างใส่กระจกร้าว แก๊งปาหิน คืนเดียวเจอ4คัน
สอบสวนผู้เสียหายแต่ละคนให้การทำนองเดียวกันว่า
ขณะขับผ่านที่เกิดเหตุถูกวัยรุ่น 2 คนซ้อน จยย.ขี่ย้อนศรใช้ก้อนหินขว้างปาใส่รถ แต่ไม่มีใครกล้าจอดทันที ต้องขับไปจอดในที่ปลอดภัย ผู้เสียหายบางคันถูกคนร้ายขี่ จยย.คนเดียวย้อนศร ปาก้อนหินใส่ แต่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายเป็นแก๊งเดียวกันมีประมาณ 5-7 คน แต่เปลี่ยนมือกันทำ ขณะที่นายชาญณรงค์ เจ้าของรถปิกอัพอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ให้การว่า ขณะขับรถจะกลับบ้าน ด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ถึงที่เกิดเหตุก็ต้องตกใจ เมื่อมีคนร้าย 1 คน สวมเสื้อยืดสีขาวขี่ จยย.สีดำ ขี่รถย้อนศรขว้างก้อนหินใส่ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน โชคดีที่ประคองรถไว้ได้เลยปลอดภัย
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 4 รายนั้น
ได้มีนายรุ่งโรจน์ แมลงภู่ทอง อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 7 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง ขับรถกระบะมาแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นได้ขี่ จยย.กลับบ้านถูกวัยรุ่น 1 คนขี่ย้อนศรแล้วใช้เท้าถีบรถจนล้ม พอลุกขึ้นรีบตามคนร้ายไปปรากฏว่ามีคนร้ายอีกคนขี่ จยย.จอดรออยู่ และทำท่าจะหยิบสิ่งของจากริมถนนขว้างใส่ เลยรีบขี่รถกลับมาบ้านและนำรถกระบะออกมาตามล่าแต่ไม่พบ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้วิทยุแจ้งให้สายตรวจและจราจร ระดมสกัดจับแต่ไร้วี่แวว
ต่อมาเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้เสียหายที่ สภ.คลองหลวง
พร้อมเรียกประชุมนายตำรวจผู้เกี่ยวข้องเพื่อเร่งคลี่คลายคดี โดยใช้เวลากว่า 2 ชม. จากนั้น พล.ต.ท.รชต เปิดเผยว่า จากการสอบถามทราบว่า นายรุ่งโรจน์ แมลงภู่ทอง ผู้เสียหายที่ถูกถีบ จยย.ล้ม เป็นผู้ที่เห็นหน้าคนร้าย สามารถบอกรูปพรรณของคนร้ายเพื่อสเกตช์ภาพต่อไป สำหรับคนร้ายแก๊งนี้คงไม่ได้หวังชิงทรัพย์แต่เป็นพฤติกรรมที่อาจลอกเลียนแบบด้วยความคึกคะนองของวัยรุ่นหรืออาจจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมรถ จยย.ซิ่งกว่า 100 คัน เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ผบช.ภ.1 กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีนี้ตนได้ตั้งรางวัลให้ผู้ที่ชี้เบาะแสนำจับคนร้ายหัวละ 10,000 บาท พร้อมสั่งให้ชุดสืบสวนของภาค 1 ร่วมกับทีมสืบสวน บก.ภ.จ.ปทุมธานี รวมทั้งชุดสืบสวนท้องที่ออกติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายให้ได้โดยเร็ว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต. ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เป็นหัวหน้าชุด ในการตามล่าแก๊งมหาภัยรายนี้ และกำชับเข้มงวดกับผู้ที่ขี่รถ จยย.ย้อนศรด้วย